svasdssvasds

บิณฑ์ ไม่หวั่นขบวนการหักหัวคิวฟ้องกลับ ยันหลักฐานครบ

บิณฑ์ ไม่หวั่นขบวนการหักหัวคิวฟ้องกลับ ยันหลักฐานครบ

เป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงมานานสำหรับ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่ นำหลักฐาน มอบให้ตำรวจสภ.เมืองยโสธร ดำเนินคดี ขบวนการหักหัวคิว จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่อุบล ซึ่ง 7 ผุู้ต้องหา นำบุคคลที่ไม่ได้รับความเดือดร้อน เข้ารับเงินช่วยเหลือ รายละ 5,000 บาท ล่าสุดทนายความของฝ่าย ที่ถูกระบุเป็นตัวการหักหัวคิว ขู่ฟ้องกลับ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์  ซึ่ง บิณฑ์ ก็ได้ออกมาเปิดใจกับเรื่องนี้ว่า...

“ผมไม่อยากมีปัญหาอะไรกับใคร ผมบอกเลยว่าที่ผมทำเพื่อพี่น้องประชาชนทั้งนั้น และเงินที่เข้ามาก็เป็นเงินของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นใครที่จะมาทำแบบนี้ ผมว่ามันไม่ได้ ถ้าเป็นเงินผม ผมปล่อย ผมไม่ฟ้อง แต่นี่มันเงินของประชาชนผมปล่อยไม่ได้ และตอนนี้ข่าวมากมายหาว่าผม รู้เห็นกับแม่กุ้ง ซึ่งมันไม่ใข่ ผมเลยต้องฟ้อง ประชาชนที่น้ำไม่ท่วมบ้านแล้วผู้นำชุมชนเซ็นให้มารับเงิน 64 คน เขายินดีเอาเงินมาคืนผม ซึ่งจริงมีคนร้อยกว่าเกือบ 200 แต่ 64 คนนี่คือชัวร์ที่จะเอาเงินมาคืนเรา แต่มีหัวหน้าชุมชนบางคน 7 คนที่ผมฟ้อง มีส่วนร่วมรูเห็น ปลอมแปลงเอกสารและเซ็นเท็จมารับเงิน และที่สำคัญคือ เขาหักหิว แทนที่ชาวบ้านจะได้ 5000 เขาให้ชาวบ้าน 1000 บาท ตัวเองรับมา4000 โดยอ้างว่าเงิน 4000 เพื่อนนำมาเป็นค่าใช้จ่าย ค่าโรงแรมค่าโน่นนี่ให้ตุณบิณฑ์ตอนมาอยู่ที่ยโสธร ซึ่งผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่เอาผมไปอ้างกับชาวบ้านเพื่อเก็บหัวคิว 4000”

บิณฑ์ ไม่หวั่นขบวนการหักหัวคิวฟ้องกลับ ยันหลักฐานครบ

ล่าสุดเขาบอกว่าเขาไม่ได้ทำ ตอนนี้เขาขอฟ้องกลับ

“เขาจะพูดอะไรก็ได้ ถ้าจะฟ้องกลับก็เชิญเลย ผมไม่มีปัญหาอะไร เพราะทุกสิ่งทุกอย่างผมมีหลักฐานเก็บไว้หมด ไม่ว่าจะเป็นเสียง เป็นคลิป แม้แต่คำพูดของเขา ชาวบ้านเป็นพยานให้ผมเป็นร้อยๆ คน และการยื่นสำนวนให้อัยการ ถ้าอัยการรู้สึกว่าฟ้องไม่ได้หรอกเขาต้องเรียกผมไปคุย แต่นี่เขาบอกเลยว่าโดนแน่นอน ผมก็เลยมั่นใจที่จะฟ้อง ถามว่าแม่กุ้งมีส่วนไหม มีส่วน เป็นหัวหน้า เป็นหัวโจกในการทำสิ่งไม่ดี ผมกับแม่กุ้งเพิ่งรู้จักกันวันเดียว ณ วันนั้นที่ผมเข้าไป เขาก็เข้าหาผม มาบริการอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ผมไม่เข้าใจว่าเขาต้องการแอบแฝงอะไร ด้วยความเคารพ ผมไม่มีโกรธเคืองอะไร แต่ผมทำด้วยหน้าที่ที่ผมต้องทำ ด้วยกฎหมายด้วยอะไร คือไม่มีสิทธิ์โกงประชาชน อันนี้ไม่ใช่เงินผมเป็นเงินประชาชน เดี๋ยวหาว่าผมรู้เห็นกับแม่กุ้งเพราะเขาไปอ้างว่าเงินที่หักไปเพื่อเอามาดูแลทีมงานคุณบิณฑ์”

มีหมายศาลมาหรือยัง

“ยัง แต่ตอนนี้เขาฟ้องกลับ ก็ไม่เป็นไร ผมร้อมที่จะสู้ ของแบบนี้ผมมองว่าไม่ถูกต้อง คุณทำผิดแล้วคุณยังยังมาฟ้องกลับผม ผมทำผิดอะไร ผมไม่ได้ให้ความเท็จ มันมีหลักฐาน

ถ้าเขาบอกว่าให้งัดหลักฐานออกมาเลย

“เดี๋ยวมีงัดแน่ๆ ถ้าวันไหนศาลนัดมาเมื่อไหร่ แล้วทุกอย่างจะอยู่ในศาล แล้ววันนั้นคุณไม่สามารถอุธรณ์ ฏีกาผมได้ แต่ที่เขาฟ้องเผื่อให้เรารู้สึกว่า... แต่ตอนนี้ผมว่างด้วยผมสามารถไปทุกศาลได้อยู่แล้ว”

เสียใจไหม

“มันก็เสียใจ เพราะชาวบ้านที่ควรจะได้ก็สมควรจะได้ แล้วมีการบอกด้วยว่าไม่เป็นไรหรอกทำได้เลย ของบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ไม่ใช่ของราชการไม่มีความผิดหรอก แม่กุ้งเป็นคนบอกให้ผู้นำชุมชนได้ทำ ว่าไม่ต้องกลัว ของบิณฑ์ไม่มีความผิด ไม่ใช่ของรัฐของราชการ ให้รับเงินได้ เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรา เขาเป็นเพียงผู้หลักผู้ใหญ่ในนั้น มาติดต่อบิณฑ์ว่ามีชาวบ้าน เขาสามารถเกณฑ์ชาวบ้านออกมารับเงินโดนน้ำท่วมได้ เขามีหลักฐาน แต่เขาสร้างหลักฐานปลอมขึ้นมา เอาบัตรประชาชนจ้างคนละพัน เพื่อมารับเงินบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ คนที่ควรได้รับจริงๆ ก็โดนตัดสิทธิ์ไป แล้วคนที่มีสิทธิ์ก็โทรมาหาผม ว่าทำไมผมไม่ได้ ผู้นำชุมชนเอาบัตรประชนชนผมไปแต่บอกว่าผมไม่ได้ โควต้ามันเกินแล้วเลยตัดสิทธิ์ผม ผมก็เลยโทรไปถามคนที่รู้ในเหตุการณ์ว่าทำไมตัดคนพวกนี้ออก เขาบอกว่าแม่กุ้งเป็นคนตัด ผมรู้สึกไม่ชอบมาพากลละ ผมเลยโทรไปหาแม่กุ้งเขาก็บอกว่าไม่ใช่ เข้าใจกันผิด ไม่ได้ตัดก็เลยเกิดเป็นกระแสขึ้นมา คือถ้าใครไม่เข้าร่วมกับเขา เขาก็จะตัดออกไปเลย ถ้าไม่ทำตามเขา คือเขาหักให้ตัวเอง แต่เขาอ้างว่า เขายังไม่ได้รับเงินที่หักไง ตัวเขาไม่มีความผิด ตัวแทนก็รับไป ที่ฟ้องไปก็มี 7 คน ”

จะฟ้องกลับไหม

“ไม่มีๆ มีแค่แม่กุ้งคนเดียวที่ฟ้องกลับผม แม้ผมจะแพ้เรื่องคดีเรื่องศาล แต่ในสังคมจะรู้ว่าผมเป็นอะไรอย่างไร จริงๆผมเป็นคนสบายๆ ไม่ชอบสร้างศรัตรู ผมยังบอกแม่กุ้งว่าเรามาคุยกันนะ ขอโทษสังคมที่ทำไป คือคดีนี้เป็นคดีที่ยอมความได้ แต่เขาไม่มา คือเขามั่นใจว่าเขาไม่รับผิด แต่คดีนี้เราก็มั่นใจมากเหมือนกัน”

ถามถึงอาการป่วยของคุณแม่ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง 

“แปลกใจมาก เพราคนแก่คนเฒ่าออกจากโรงพยาบาลกลับมาจะต้องไม่ไหว แต่นี่กลับมานี่สนุกสนาน แข็งแรง อารมณ์ดี เรารู้สึกว่าเขาต้องการพักแป๊บนึง พอกลับมาเขาก็ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ต้องห่วงเยอะ เราก็สบายใจ ตอนนี้เรามีภารกิจอยู่ที่อีสานพอเราว่างเราก็รีบกลับไปหาแม่ ตอนนี้ท่าก็โอเค แม่ก็มีความสุข พอแม่มีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะเหมือนท่านมีอายุยืนขึ้น”

บิณฑ์ ไม่หวั่นขบวนการหักหัวคิวฟ้องกลับ ยันหลักฐานครบ

 เราไม่ได้อยู่กับแม่ตลอดมีจ้างคนดูแลไหม

“ไม่ได้จ้าง คือมีน้องสาวคนเล็กคอยดูแล ตอนนี้แม่ก็โอเคสบาย มีความสุข”

ก่อนนี้ท่านป่วยเป็นอะไร

“โห...โรคไต ปอดติดเชื้อในกระแสเลือด คือหลายอย่าง ก่อนหน้านี้คือเราคิดว่าแกไม่น่าจะรอด แต่ด้งยความที่เราขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อธิฐานถึงสิ่งที่เราเคยทำมา ว่าอย่าให้ท่านเป็นอะไรไปเลย ด้วยความที่เรามีภารกิจที่อีสานด้วย 2 วันเท่านั้น จากที่ท่านนอนไอซียู 4-5 วัน แม่ก็ดีขึ้นๆ จนออกจากไอซียูและกลับบ้านได้เลย พอกลับมาบ้านท่านก็ทำคัวปกติ เหมือนไม่เคยป่วยมาก่อน ท่านก็สดใสร่าเริง ไม่เหมือนเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ก็กำลังใจดี เรารู้ว่าถ้าท่านเห็นหน้าเราท่านก็จะอารมณ์ดี”

ทุกวันนี้ต้องพบแพทย์ไหม

“พบทุก 2 อาทิตย์ เมื่อวานท่านเพิ่งไปหาหมอ หมอก็บอกว่าปกติละไม่มีอะไรเลย นัดอีกทีอีกทีก็ 2 อาทิตย์ ตอนนี้ท่านก็เดินได้อะไรได้ ก็ถือว่าดีพอใจมาก”

บิณฑ์ ไม่หวั่นขบวนการหักหัวคิวฟ้องกลับ ยันหลักฐานครบ

related