จอย ที-สเกิ๊ต ถอดหัวโขน! จากดาราสู่แม่ค้าขายหมูเด้งสู้วิกฤตโควิด

สปริงนิวส์ชวนฟังเรื่องราวของ จอย ที-สเกิ๊ต นักร้อง-นักแสดง แห่งยุค 90 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ทำให้งานในวงการบันเทิงของเธอที่เพิ่งคัมแบ็คกลับมาต้องสะดุด แต่เธอก็พลิกวิกฤตโควิดให้เป็นโอกาส อยากรู้เธอทำได้อย่างไรเธอมีคำตอบ

จอย ที-สเกิ๊ต คัมแบ็ควงการในรอบกว่า 20 ปี

"กับการที่ได้กลับมาเข้าทำงานในวงการอีกครั้งนึงเนี่ยถือว่ามันโอเคมากๆ เลยนะคะกลับการที่เราได้ต่อยอดในงานวงการบันเทิง เพราะว่าเอาง่ายๆ เลยเวลาเรากลับมาในวงการเนี่ย ทุกๆ คนที่ลืมเราไปแล้วก็ยัง เออใช่เขายังอยู่นี่นา มันทำให้ความรู้สึกของการเป็นศิลปินมันกลับมาอีกครั้ง จอยรู้สึกพี่พลัง จอยรู้สึกว่าจริงๆ เป็นกันทั้งสามคนนะคะ

"มันหายคิดถึงและมันก็ทำได้ด้วยความสุขอ่ะ พอทำด้วยความสุขมันจะไม่รู้สึกเหนื่อย แล้วมันจะเต้นกันร้องเพลงกันอย่างมีความสุข แล้วละครก็เข้ามาแล้วมีการได้ออกสื่อหลายๆ ที่ ได้ออกรายการเกมโชว์อะไรหลายๆ อย่าง มันก็รู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มเปิดให้เราและวงการบันเทิงเราได้กลับเข้ามาอีกครั้งนึงมันคือความรู้สึกที่ดีแฮปปี้มากๆ"

วิกฤต "โควิด" ทำชีวิตและงานวงการบันเทิงสะดุด

"โควิด 19 เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยคาดคิดมาก่อนซึ่งจอยเองก็ไม่เคยคาดคิดว่ามันจะมีโรคระบาดหนักขนาดนี้ไปทั่วโลก มันไม่ใช่แค่ประเทศของเรามันเลยทำให้เรารู้สึกว่าทุกคนก็คงเจอสภาพเดียวกัน ทุกอย่างต้องหยุดนิ่งและล็อกดาวน์ ตอนแรกๆ ยังไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ แต่ตอนหลังๆ เริ่มนอนคิดเพราะเป็นคนทำงานมาโดยตลอด พี่เป็นคนทำงานแล้วเป็นแบบเป็นคนอเลิท คือถ้าเมื่อไหร่ที่แบบว่างานจบแล้วมันต้องมีต่อจบ

"มันมีอยู่วันนึงที่เราว่างกันทั้งคู่เลยแฟนก็ทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิก ก็โดนพักงานเหมือนกันนั่งมองหน้ากันเอายังไงดีพี่ เราจะอยู่กันแบบนี้ไม่ได้ เราจะอยู่กันแบบไม่มีรายได้เข้ามาเลยไม่ได้เราจะทำไงดี มันเลยทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องคิดและว่าเราจะทำอะไร"

"ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าเราจะขายอะไร มันต้องขายของรู้สึกแค่ว่าถ้าเราอยู่บ้านเฉยๆ เราจะทำอะไรที่ทำในบ้านได้แล้วก็สามารถที่จะแปลงเป็นเงินได้ไง มันก็คิดยากอยู่เหมือนกันเนอะ แต่ด้วยจังหวะด้วยอะไรหลายๆ อย่างมันเลยทำให้อยู่ดีๆ เราก็คิดขึ้นมาได้โดยที่เราไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เราอยู่กับมันมาตลอดมันจะสามารถสร้างอาชีพและก็สร้างรายได้ให้เราได้ค่ะ"

ปิ้งไอเดีย "ขายหมูเด้ง" สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว

"สินค้าที่พี่ได้มามันอยู่กับพี่มาโดยตลอดแต่พี่มองไม่เห็นก็คือแม่หมูเด้ง หมูเด้งที่พี่ทำให้ลูกทานที่ครอบครัวเราทำขึ้นมาทานกันเองเพราะว่าลูกเนี่ยค่ะเป็นภูมิแพ้เขาก็จะทานอะไรยาก หมูเด้งก็เป็นเมนูของครอบครัวเราเหมือนกันเป็นสูตรของเราเองที่ทำขึ้นมาทำกินกันเองที่บ้านมาแล้ว 7 ปี"

"และช่วงล็อกดาวน์มันก็เลยมาๆ เกี่ยวเนื่องกัน ช่วงล็อกดาวน์เราต้องอยู่บ้านเราต้องมีอาหารตุน และเพื่อนพี่เขาก็จะตามสถานการณ์นี้มาตั้งแต่ลูกพี่เกิดแล้วเขาก็จะเห็นภาพหมูเด้งของพี่มาโดยตลอด แต่พอมาเกิดสถานการณ์โควิดเวลาเรามีมากเลย เวลาเรามีเยอะมากและเราก็รู้สึกว่าไหนๆ เราต้องทำเสบียงตุนแล้วเราก็เลยถามเพื่อนไปว่าเอาใช่ไหม"

"แต่พอหลังจากนั้นก็เริ่มล่ะศึกษาหาข้อมูล แต่ชื่อยังไม่รู้ว่าจะชื่ออะไรดีเพื่อนอีกคนก็เลยบอกว่าก็ชื่อแม่หมูเด้งไปเลย เราก็แม่หมูเด้ง มันเหมาะกับแก เราก็..ฉันอ้วนหรอ เออก็ดีนะแม่หมูเด้งมันเป็นหมูที่แม่ทำให้ลูก หมูที่คนเป็นแม่อยากให้ลูกทานและมันเป็นหมูของเราอะไรอย่างเนี่ย ก็โอเคเลยจบที่ชื่อว่าแม่หมูเด้ง"

ปล่อยผ่านคำวิจารณ์จาก "ดารา-นักร้อง" เป็นแม่ค้า

"การที่สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงแล้วคนมองว่าพี่จอยเปลี่ยนตัวเองว่ามาเป็นแม่ค้า พี่ไม่รู้สึกว่ามันจะกระทบกระเทือนอะไรกับพี่นะ ก็รู้สึกว่าก็ใช่ พี่อาจจะเป็นคนที่โชคดีอย่างนึงเป็นคนที่เปลี่ยนตามสถานการณ์ได้รวดเร็ว คือสถานการณ์จะแย่แค่ไหนพี่จะคิดบวกและพี่ก็จะพาคนที่อยู่รอบๆ ตัวคิดบวกไปด้วยกัน ทุกคนมีสมองทุกคนคิดได้แต่ถ้าเราไปคิดแค่ว่าเราต้องไม่รอดแน่ๆ เลยแล้วเราจะยังไงและไปนอยด์กับมันอยู่กับปัญหานานเกินไปอย่างเนี่ยจอยเชื่อว่ามันก็ไม่รอด"

"จากดารามาเป็นแม่ค้าและถ้าคนมองว่าเป็นดาราแล้วมาเป็นแม่ค้า แล้วถ้าเราไปใส่ใจกับคำพูดพวกเนี่ยมันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตพี่จอยดีขึ้นมา พี่จอยรู้สึกว่าพี่จอยได้ทำอะไรหลายๆ อย่างมันสนุกมันได้รู้ ถ้าพี่จอยไม่ได้ลองขายหมูเด้งในวันนั้น ถ้าเพื่อนพี่จอยเอ่ยปากว่าฉันขอซื้อหน่อยแล้วพี่ไม่ขายเพราะพี่อายกับคำว่าเป็นแม่ค้า

"หรือแม้กระทั่งลูกค้าคนที่ไลน์มาแล้วพี่รู้สึกอายพี่ก็จะไม่มีความสุขกับการขายของถูกไหมคะ และที่สำคัญเลยพี่จะไม่รู้เลยว่าการขายหมูเด้งมันคืออาชีพของพี่ในอนาคต การที่พี่เลือกที่จะทำอย่างที่พี่บอกพี่ยังคุยกับแฟนอยู่เลยว่าถ้ามันไปต่อเรื่อยๆ เราก็ขายต่อไปเรื่อยๆ"

"แต่ถ้าสมมติว่าลูกค้าไม่ให้การตอบรับแล้วหรือสินค้าเราไม่ถูกใจหรือมันไม่ได้ตอบโจทย์เราก็พร้อมที่จะหยุดและจะเปลี่ยนเราจะมองหาสิ่งใหม่ๆ ที่มันช่วยเอื้อให้เราได้มีอาชีพอะไรก็ตามทุกคนสามารถทำได้แต่เข้าใจอย่างนึงนะบางคนก็จะพูดว่าเราต้องคิดสิเราจะทำอะไรไม่ใช่เรามานั่งเฉยๆ"

"แต่บางทีมันคิดไม่ออกอันเนี่ยเข้าใจมากๆ เลยเพราะก่อนหน้านั้นก็คิดไม่ออกเหมือนกันเพียงแค่ว่าอันนี้คือสิ่งที่เราอย่างที่พี่จอยบอกว่าพี่จอยอยู่กับหมูเด้งนี้มาหลายปีมากแต่ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะสามารถขายให้เราได้"

โควิด 19 สอนให้รู้จัก "ถอดหัวโขน"

พี่อาจจะเป็นคนอยู่ง่ายเพราะพี่เป็นคนที่ไม่ได้ถือหัวโขนไม่ได้มียศหรืออะไรก็แล้วแต่พี่ปรับตัวเองเก่งและก็พี่ก็รู้สึกว่าการเป็นแม่ค้าพี่ไม่ได้อายพี่ดิลีทคำว่าอายออกไปเพราะพี่รู้สึกว่าการทำงานที่เป็นอาชีพบริสุทธิ์อะไรก็ตามที่มันสร้างฐานะให้เราได้"

"จอยจะมีแฮชแท็กให้ตัวเองเสมอว่าพลิกโควิดเป็นโอกาสอันเนี่ยมันช่วยให้เราเจอโอกาส หลายๆ คนอาจจะเจอเหมือนที่จอยเจอและจอยก็เจอร้านอาหารบางร้านที่เป็นโฮมเมดแล้วอร่อยมากอะไรแบบเนี่ย ตอนนี้ก็มีร้านอาหารบางร้านมาใช้หมูเด้งของจอยไปทำอาหาร"

"มีบางท่านที่ตกงานก็เอาหมูเด้งของจอยไปทำขนมจีบซึ่งจอยแฮปปี้มาก ไม่ต้องบอกเลยไม่ต้องเอ่ยเลยว่ามากจากแม่หมูเด้งเพียงแค่คุณเอาวัตถุดิบเราไปแล้วคุณเอาไปทำสิ่งอื่นแล้วคุณได้อาชีพคุณได้เงินเรารู้สึกว่ามันเป็นการต่อยอดให้เขาได้เหมือนกันเรารู้สึกภูมิใจ"