องค์การนิรโทษกรรมสากล ออกเคลื่อนไหว จี้ "ไทย" หยุดผลักไส "โรฮิงญา" วอนทำตัวเป็นแบบอย่าง

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายออเดรย์ โกราน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายงานวิจัยขององค์การนิรโทษกรรมสากล ออกมาเรียกร้องให้ประเทศไทยควรแสดงตนเป็นแบบอย่างในภูมิภาค ด้วยการกำหนดนโยบายให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัย หยุดผลักไสชาวโรฮิงญาออกสู่ทะเล หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาอพยพหนีตายออกนอกประเทศ และมีการคาดเดาว่าชาวโรฮิงญาจะเริ่มล่องเรืออพยพอีกครั้งในช่วงปลายเดือน พ.ย. หลังหมดฤดูมรสุมซึ่งเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบ ทั้งนี้ชาวโรฮิงญามักใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังประเทศที่สาม จนกระทั่งเมื่อปี 2015 ที่ประเทศไทยเริ่มมีมาตรการปราบปรามอย่างจริงจัง ทำให้เรือของชาวโรฮิงญาจำนวนมากถูกทอดทิ้งอยู่กลางทะเล

ทั้งนี้ นายออเดรย์ โกราน ยังกล่าวอีกว่ารัฐบาลไทยล้มเหลวในการปกป้องผู้ลี้ภัย แทนที่จะขับไล่ไสส่งผู้คนที่ถูกกดขี่ข่มเหงอย่างยากจะจินตนาการได้ รัฐบาลควรเปิดช่องทางให้คนเหล่านี้มีโอกาสขอรับความคุ้มครองจากนานาชาติ ขณะที่ เอมี สมิธ ผู้อำนวยการบริหารองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชน ฟอร์ตีฟาย ไรต์ส (Fortify Rights) ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกในสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุติมาตรการผลักดันออกต่อชาวโรฮิงญา โดยระบุว่าผู้นำรัฐบาลไทยควรทำทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งเหตุรุนแรงในเมียนมา พร้อมปกป้องผู้ลี้ภัยที่หนีเอาตัวรอดมายังประเทศไทย

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า รัฐบาลได้เตรียมมาตรการรองรับชาวโรฮิงญาที่ลี้ภัยความรุนแรงมาจากเมียนมา และจะส่งพวกเขากลับไปเมื่อพวกเขาพร้อม แต่ทางด้านกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้ระบุผ่านสื่อเมื่อไม่นานมานี้ว่า จะยังคงสกัดกั้นไม่ให้ผู้ลี้ภัยเหล่านี้เข้ามาในไทย และปฏิเสธที่จะชี้แจงข้อซักถามใดๆ