เอาจริง! จีนเล็งปราบปัญหาหมอกควันพิษ

ด้วยประชากรที่มีจำนวนมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ขณะนี้จีนกำลังประสบปัญหาหมอกควันขั้นวิกฤต ทำให้รัฐบาลเฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบปริมาณหมอกควันและมลพิษในประเทศอย่างเคร่งครัด

จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีปัญหามลพิษทางอากาศรุนแรงที่สุดในโลก โดยมีสาเหตุหลักมาจากการใช้ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานและการปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม

รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของจีน กล่าวว่า การปราบปรามปัญหาหมอกควันพิษในจีนจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตของสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญ หรือ ระบบเศรษฐกิจของประเทศ หลังจีนจัดตั้งนโยบายตรวจสอบหมอกควันและมลพิษอย่างเคร่งครัด

นายซุย ชูหง ผู้อำนวยการฝ่ายการประเมินผลที่กระทรวงคุ้มครองสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า หลังตรวจสอบปริมาณหมอกควันและมลพิษ พบว่า กำไรของภาคอุตสาหกรรมใน 15 มณฑลของจีนต่อปี ยังคงสูงถึง 0.95 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในพื้นที่อื่นๆอยู่ที่ 0.54 เปอร์เซ็นต์

การบังคับใช้กฏหมายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัดจะช่วยแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและยกระดับสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจในประเทศด้วยเช่นกัน นายซุย กล่าว

จีนกำลังดำเนินการตรวจสอบปริมาณหมอกควันและมลพิษ เป็นระยะเวลา 6 เดือน และบังคับใช้นโยบายรณรงค์และส่งเสริมปริมาณการลดหมอกควันในกรุงปักกิ่ง, เมืองเทียนจิน, จังหวัดต่างๆรอบมณฑลเหอเป่ย, มณฑลเหอหนาน, มณฑลซานตง, และมณฑลซานซี ตามจุดประสงค์ของรัฐบาลที่ให้คำมั่นว่าจะลดปริมาณหมอกควันให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้

กรุงปักกิ่ง เผชิญแรงกดดันในการปรับลดค่าเฉลี่ยของความเข้มข้นอนุภาค ในอากาศของประเทศให้ต่ำกว่า 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรให้ได้ในปีนี้ โดยกรุงปักกิ่ง เมืองเทียนจินและมณฑลเหอเป่ยต้องปรับลดค่าเฉลี่ยของความเข้มข้นของอนุภาคในอากาศรวมกันให้ได้มากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์จากปี 2012

หลุย โหยว บิน โฆษกกระทรวงการคุ้มครองด้านสิ่งแวดล้อมจีน เผยว่า แม้ผลของการควบคุมมลพิษครั้งใหญ่นี้จะเป็นผลบวก แต่พวกเรายังอยู่ในขั้นวิกฤต และเผชิญกับความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะในบางพื้นที่ ที่ขาดความสมดุล เราจึงตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหา ซึ่งเราจะไม่ปล่อยมันไปง่ายๆ