สหรัฐฯ จ่อ คว่ำบาตรเมียนมา ประเด็นโรฮิงญา

สหรัฐฯเตรียมดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลเมียนมา หลังเหตุปะทะกันระหว่างกองทัพรัฐบาลเมียนมา และกองกำลังติดอาวุธโรฮิงญาส่งผลให้โรฮิงญาจำนวนกว่าครึ่งล้านอพยพไปบังกลาเทศ

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า ขณะนี้ สหรัฐฯอยู่ในขั้นตอนระหว่างการดำเนินมาตรการที่แข็งกร้าว รวมทั้งพิจารณาการคว่ำบาตรเมียนมา ภายใต้ กฎหมายแม็กนิตสกีของสหรัฐฯเพื่อตอบโต้ความรุนแรงในพื้นที่รัฐยะไข่ ที่ส่งผลให้ชาวโรฮิงญาเกือบ 600,000 คน หนีตายไปบังกลาเทศ

ในแถลงการณ์ระบุอีกว่า บุคคลหรือหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องและอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการโจมตีจะต้องรับผิดชอบ และตอนนี้ สหรัฐฯกำลังตรวจสอบขอบเขตการใช้มาตรการตอบโต้ภายใต้กฏหมายของสหรัฐฯ สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า หลังจากที่มีการสัมภาษณ์นักการทูตหลายสิบคนและเจ้าหน้าที่รัฐในกรุงวอชิงตัน, เมืองย่างกุ้ง, และ ยุโรป พบว่า มาตรการคว่ำบาตรพุ่งเป้าไปที่กลุ่มนายพลระดับสูง ที่คาดว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตี รวมทั้งนายพลมิน อ่องลาย ผู้บัญชาการทหารของเมียนมา และ ผู้นำกลุ่มติดอาวุธชาวยะไข่พุทธ ที่ก่อเหตุไล่เผาหมู่บ้านของชาวโรฮิงญาด้วย

ปัจจุบัน มาตรการลงโทษได้บังคับใช้กับอดีตสมาชิกกองทัพทหารเมียนมา รวมทั้งหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่รัฐยะไข่ที่สกัดกั้นความช่วยเหลือจากสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น และจำกัดการลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวโรฮิงญาแล้ว

แม้ ยังไม่มีการแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการวางแผนดำเนินมาตรการลงโทษเร็วๆนี้ แต่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯจะถือว่าหัวหน้ากองทัพรัฐบาลเมียนมาเป็นต้นเหตุของการปะทะ ที่มุ่งขับไล่ชาวโรฮิงญาออกจากประเทศ

วิกฤตโรฮิงญาสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงการรับมือของนาง ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ หลังเธอไม่สามารถควบคุมกองทัพเมียนมาในการยุติความรุนแรงและปัญหาด้านมนุษยธรรมต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ได้ โดยกระแสความไม่พอใจยังลามมาถึงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ล่าช้า