สหรัฐฯ เผยเอกสารลับ 5 ล้านหน้า คดีลอบสังหาร "เจเอฟเค"

รัฐบาลสหรัฐฯ เผยแพร่เอกสารลับคดีลอบสังหาร อดีตประธานาธิบดีเมื่อปี ค.ศ.1963 แล้ว แม้บางส่วนจะถูกหน่วยงานสหรัฐฯ สั่งระงับการเผยแพร่ก็ตาม

รัฐบาลสหรัฐทำการเผยแพร่เอกสารลับ คดีลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี หรือ เจเอฟเค เมื่อเมื่อปี ค.ศ.1963 แล้วตามการอนุมัติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ โดยเอกสารจำนวน 2,800 หน้าที่เกี่ยวข้องกับคดี ถูกเผยแพร่ออกมาทางออนไลน์ แม้เอกสารบางส่วนถูกระงับไว้ในนาทีสุดท้าย ตามคำร้องของซีไอเอและเอฟบีไอก็ตาม แต่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวหลังจากที่เอกสารถูกเผยแพร่ออกมาว่า เอกสารที่เหลือซึ่งนอกเหนือจากพวกชื่อและที่อยู่ของผู้ที่ถูกเอ่ยถึงในเอกสารที่ยังมีชีวิตอยู่ จะถูกนำออกมาเผยแพร่ทั้งหมด

ข้อมูลที่ระบุในเอกสารลับเหล่านี้ประกอบไปด้วยข้อมูลอย่างเช่น นายเจมส์ เอ็ดการ์ ฮูเวอร์ อดีตผอ.เอฟบีไอ ในขณะนั้น เคยแจ้งเตือนไปยังตำรวจท้องถิ่นในเมืองดัลลัสว่า นายลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ อดีตนาวิกโยธินสหรัฐ มือสังหารอดีตประธานาธิบดีเคนเนดี อาจถูกปองร้ายเอาชีวิต จึงจำเป็นต้องปกป้องผู้ต้องหารายนี้ให้ดี แต่คำเตือนไม่เป็นผล สุดท้ายนายออสวอลด์ ถูกนายแจ็ค รูบี เจ้าของไนท์คลับ ใช้ปืนยิงเสียชีวิตบริเวณชั้นใต้ดินของสถานีตำรวจดัลลัส เพียง 2 วันหลังจากอดีตประธานาธิบดีเคนเนดีถูกสังหาร

บันทึกของซีไอเอที่มาจากการดักฟังโทรศัพท์ระบุว่า นายออสวอลด์ได้พูดคุยกับนายวาเลรี วลาดิมิโรวิช คอสติคอฟ เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับ เคจีบี ของรัสเซียรายหนึ่ง ผู้ที่รับผิดชอบด้านการบ่อนทำลายและลอบสังหาร ที่สถานทูตรัสเซียในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 1963 ช่วงก่อนลงมือสังหารอดีตประธานาธิบดีเคนเนดี

ขณะที่เอกสารอีกส่วนระบุว่า เจ้าหน้าที่โซเวียตกลัวว่า นายพลกองทัพสหรัฐจะสั่งยิงขีปนาวุธเข้าใส่โซเวียต หลังการเสียชีวิตของอดีตประธานาธิบดีเคนเนดี พร้อมปฎิเสธความเกี่ยวข้องกับนายออสวอล์ด และแสดงความเห็นว่า คนร้ายอาจเป็นโรคประสาทที่ไม่สื่อซัตย์ต่อประเทศตนเอง ส่วนบันทึกของเอฟบีไอจากช่วงก่อนที่อดีตประธานาธิบดีเคนเนดีจะได้รับเลือกให้เป็นผู้นำประเทศระบุว่า มีนักสืบเอกชนพยายามตามสอดแนมเขาซึ่งในตอนนั้นยังเป็นเพียงสมาชิกวุฒิสภา โดยนักสืบพยายามติดต่อกับหญิงให้บริการเพื่อสืบหาข้อมูลข่าวฉาวของอดีตประธานาธิบดีเคนเนดี

ทั้งนี้ ตามกฎหมายสหรัฐระบุชัดเจนว่า บันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารทั้งหมด ที่มีอยู่ประมาณ 5 ล้านหน้า ต้องถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนภายในระยะเวลา 25 ปี ซึ่งเส้นตายก็คือวันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยข้อมูลร้อยละ 90 ของเอกสารข้อมูลนั้นเป็นที่รับรู้กันอยู่แล้ว แต่เอกสารที่ถูกเผยแพร่ออกมาล่าสุดเป็นข้อมูลที่สาธารณชนไม่เคยเห็นมาก่อน