svasdssvasds

สหรัฐฯ ซัด! เกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลัง ‘วันนาคราย’ จี้รับผิดชอบ

สหรัฐฯ ซัด! เกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลัง ‘วันนาคราย’ จี้รับผิดชอบ

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

 

สหรัฐอเมริกาออกมากล่าวอ้างอย่างเป็นทางการครั้งแรก ว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ด้วยไวรัส ‘วันนาคราย’

 

สหรัฐฯ ซัด! เกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลัง ‘วันนาคราย’ จี้รับผิดชอบ

 

นิตยสารวอลสตรีทเจอร์นัล รายงานว่า นายโธมัส บอสเสิร์ท ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ด้วยไวรัส ‘วันนาคราย’ เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมี 150 ประเทศทั่วโลก ได้รับผลกระทบ โดยระบุว่า เกาหลีเหนือต้องเป็นผู้รับผิดชอบการโจมตีทางไซเบอร์ในครั้งนี้ ซึ่งสร้างความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งอ้างอิงจากหลักฐานที่มี พร้อมทั้งกล่าวโจมตีเกาหลีเหนือถึงการกระทำที่คุกคามทั่วโลกมายาวนานกว่า 10 ปี โดยไม่เคยถูกตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ไม่ได้มีการระบุข้อเรียกร้อง หรือ ระบุชื่อบุคคลที่เป็นผู้ปล่อยไวรัส ‘วันนาคราย’ เพียงแต่เป็นการเปิดโปงเพื่อให้เกาหลีเหนือรับผิดชอบต่อการกระทำและเพื่อบั่นทอนศักยภาพของเกาหลีเหนือในการโจมตีครั้งต่อไป

ฝ่ายสอบสวนของรัฐบาลสหรัฐฯ มีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่า ‘ลาซารัส กรุ๊ป’ ซึ่งเป็นกลุ่มปฏิบัติการแฮกเกอร์ของเกาหลีเหนือ เป็นผู้ปล่อยไวรัส ‘วันนาคราย’

ขณะที่ นักวิจัยเชื่อว่า ‘ลาซารัส กรุ๊ป’ อยู่เบื้องหลังการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของ บริษัท โซนี พิคเจอร์ส เมื่อปี 2014 (พ.ศ. 2557) โดยเข้าไปทำลายแฟ้มข้อมูลและนำบันทึกสื่อสารภายในองค์กรออกมาเผยแพร่ จนนำไปสู่การลาออกของผู้บริหารหลายราย

 

สหรัฐฯ ซัด! เกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลัง ‘วันนาคราย’ จี้รับผิดชอบ

 

‘วันนาคราย’ ถูกพัฒนาขึ้นโดยแฮกเกอร์ที่เรียกตัวเองว่า Shadow Brokers เพื่อใช้ในการเรียกค่าไถ่จากบรรดาผู้ใช้งาน ซึ่งบังคับให้หลายหน่วยงานที่โดนโจมตีต้องจ่ายเงินจำนวนราว 300-600 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยราวกว่า 20,000 บาท ในการปลดล็อกเพื่อเข้าถึงข้อมูล

ด้าน เกาหลีเหนือยังไม่ออกมาตอบโต้คำกล่าวอ้างของสหรัฐฯ ในวันนี้ แต่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบต่อการโจมตีทางไซเบอร์ด้วยไวรัส ‘วันนาคราย’ หลายครั้ง และบอกว่า ข้อกล่าวหาว่า เกาหลีเหนือโจมตีทางไซเบอร์เป็นคำใส่ร้ายป้ายสีจากบรรดานานาชาติ

 

related