'กระแสขวาจัด' คลื่นใต้น้ำสะเทือนการเมืองโลก!

ในช่วงปีที่ผ่านมา อีกความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เห็นได้ชัด คือ กระแสการเมืองแบบ ‘ขวาจัด’ ที่เติบโตขึ้น เห็นได้ชัดในการเลือกตั้งใหญ่ ๆ ในช่วงรอบปีที่ผ่านมา

การเปิดกว้างและการรวมกลุ่มอาจจะไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป เพราะดูเหมือนว่า แนวคิดแบบ ‘ขวาจัด’ หรือแนวคิดชาตินิยมและอนุรักษ์นิยมแบบสุดโต่ง ยังคงมาแรงในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป หลังจากที่ ‘กระแสขวาจัด’ สร้างปรากฏการณ์ช็อกโลกในผลการลงประชามติเบร็กซิทไปแล้วเมื่อปีก่อน และสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งในการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา ที่นโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” สามารถดัน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศมหาอำนาจได้ รวมทั้งปัญหาเรื่องผู้อพยพที่เรื้อรัง ทำให้หลายกลุ่มเริ่มตระหนักถึงการรักษาผลประโยชน์ของประเทศตัวเองมากขึ้น

เห็นได้จากผลการเลือกตั้งในยุโรปตลอดทั้งปีนี้ ที่ ‘พรรคการเมืองแนวคิดขวาจัด’ ได้สร้างปรากฏการณ์ในหลายประเทศตลอดทั้งปี

เริ่มต้นปีด้วย ‘การเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์’ ที่เป็นที่จับตาว่า พรรคการเมืองที่มีนโยบายต่อต้านคนเข้าเมือง อย่าง พรรคเสรีภาพ หรือ พีวีวี จะชนะการเลือกตั้งหรือไม่ แม้การแข่งขันจบที่พรรคพีวีวีพ่ายแพ้ ได้คะแนนตามมาเป็นอันดับที่ 2 แต่ก็ได้ที่นั่งในสภาเพิ่มขึ้น 5 ที่นั่ง รวม 20 ที่นั่ง จากทั้งหมด 150 ที่นั่ง

ที่ฝรั่งเศส ‘ผู้นำพรรคขวาจัด’ อย่าง นางมารีน เลอแปน สามารถเข้าไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในรอบที่ 2 ได้ด้วยคะแนนโหวตเกือบ 34% แม้จะพ่ายแพ้ให้กับ นายเอ็มมานูแอล มาครง แต่ในการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนต่อมา เธอก็ยังสามารถนำพรรคขวาจัดของเธอเข้าไปโกยที่นั่งในสภาได้มากขึ้น

เยอรมนีเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เปิดรับผู้อพยพเป็นจำนวนมาก แม้ในการเลือกตั้งทั่วไปปีนี้ นางอังเกลา แมร์เคิล จะสามารถรั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 4 ต่อไปได้ แต่ก็เป็นครั้งแรกที่ ‘พรรคขวาจัด’ อย่าง พรรคทางเลือกเยอรมนี หรือ พรรค AfD ที่ทำคะแนนได้ดีเกินคาด ได้คะแนนโหวตเป็นอันดับที่ 3 และเข้ามามีที่นั่งในรัฐสภาได้เป็นครั้งแรกนับแต่สิ้นสุดสงครามโลก ครั้งที่ 2

ส่วนการเมืองในสาธารณรัฐเช็ก พรรคเอเอ็นโอ ซึ่งเป็น ‘พรรคแนวคิดประชานิยม’ นำโดย นายแอนเดรจ์ บาบิส มหาเศรษฐีที่มีฉายานามว่า ‘ทรัมป์แห่งสาธารณรัฐเช็ก’ หรือ ‘เบอร์ลุสโคนีแห่งสาธารณรัฐเช็ก’ ก็เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง

ออสเตรียก็เพิ่งได้ผู้นำประเทศที่อายุน้อยที่สุดในยุโรปและของโลก หลัง ‘เซบาสเตียน คูร์ซ’ สามารถนำพรรคประชาชน ซึ่งเป็น ‘พรรคอนุรักษ์นิยม’ ของเขา คว้าชัยในการเลือกตั้งออสเตรีย และเขายังได้ชวนพรรคขวาจัด หรือพรรคอิสรภาพ มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย ซึ่งในการเลือกตั้งปีนี้ พรรคอิสรภาพได้คะแนนถึง 26% ถือว่าเป็นคะแนนที่สูงสุดของพรรคขวาจัดที่ได้ในรอบเกือบ 20 ปี

แม้ในปีนี้ ‘พรรคการเมืองขวาจัด’ ส่วนมาก จะล้มเหลวในการคว้าชัยในการเลือกตั้ง แต่ก็ได้คะแนนมากสุดเป็นประวัติการณ์ในทุกประเทศที่กล่าวมา รวมถึงกระแสการเมือง ‘ชาตินิยม’ ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงกันหนาหูกว่าที่เคย และเข้ามามีบทบาทในรัฐบาลทั่วโลกมากขึ้น ต้องรอดูกันต่อไปว่า ในปีหน้า ‘พรรคการเมืองแนวคิดขวาจัด’ จะยังมีอิทธิพลต่อไปหรือไม่ และนโยบายของเหล่าผู้นำฝ่ายขวาที่เข้ามามีบทบาทบนเวทีโลก จะสร้างผลกระทบต่อสังคมโลกได้อย่างไร