‘บิล ริชาร์ดสัน’ อดีตนักการทูตสหรัฐฯ ยื่นหนังสือลาออกจากคณะที่ปรึกษานานาชาติ ที่ นางออง ซาน ซูจี ตั้งขึ้นเพื่อหาทางออกวิกฤตชาวโรฮิงญา โดยระบุว่า คณะที่ปรึกษานี้ตั้งขึ้นเพื่อ “ลบล้างความผิด” และกล่าวหานางซูจีว่า “ขาดความเป็นผู้นำด้านศีลธรรม” ในประเด็นดังกล่าว
วันที่ 26 ม.ค. 61 -- นายบิล ริชาร์ดสัน อดีตที่ปรึกษาในรัฐบาลคลินตัน กล่าวว่า เหตุผลหลักที่เขาลาออกจากคณะที่ปรึกษานานาชาติที่ นางออง ซาน ซูจี ตั้งขึ้น เป็นเพราะคณะที่ปรึกษา คือ เครื่องมือลบล้างความผิด และกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของทีมเชียร์ลีดเดอร์ของรัฐบาล
นอกจากนี้ นายริชาร์ดสัน กล่าวอีกว่า เขา และนางออง ซาน ซูจี มีความเห็นไม่ลงรอยกันในระหว่างการประชุมเมื่อวันจันทร์ (22 ม.ค.) ที่ผ่านมา เหตุจากการที่เขากล่าวถึงกรณีผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ส 2 คน ที่ถูกรัฐบาลเมียนมาดำเนินคดีฐานทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลลับของทางราชการ ทั้งที่กำลังรายงานข่าวเกี่ยวกับ ‘วิกฤติชาวโรฮิงญา’ ซึ่ง นายริชาร์ดสัน กล่าวว่า นางซูจีโกรธจัด และยืนยันว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่งานของคณะที่ปรึกษาฯ
นายริชาร์ดสัน กล่าวว่า รู้จักกับนางซูจีมาตั้งแต่ช่วงหลังปี 2523 และเธอไม่ได้รับคำแนะนำที่ดีจากทีมของเธอ เขาชอบเธอมากและเคารพเธอ แต่เธอไม่ได้แสดงออกถึงความเป็นผู้นำด้านศีลธรรมในประเด็นรัฐยะไข่ และข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาเสียใจในเรื่องนี้
ด้าน นายซอ ฮเต โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวว่า รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ นายบิล ริชาร์ดสัน ลาออกจากคณะที่ปรึกษาฯ จากความเข้าใจผิดกันครั้งนี้ เขายังได้อธิบายอีกว่า คณะที่ปรึกษาฯ และนางซูจีกำลังหารือกันเรื่องของรัฐยะไข่ แต่นายริชาร์ดสันกลับพูดถึงเรื่องนักข่าวรอยเตอร์สที่ถูกจับขึ้นมา ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่นอกกรอบการหารือครั้งนี้