ประธานกรรมการรีพับลิกันลาออก! หลังถูกสื่อดังแฉ 'ล่วงละเมิดทางเพศ' พนักงานนวด

  ‘สตีฟ วินน์’ มหาเศรษฐีเจ้าของ ‘วินน์ รีสอร์ต’ บริษัทมหาชนในลาสเวกัส ที่ทำธุรกิจกาสิโนและโรงแรม ลาออกจากตำแหน่งประธานการเงินของคณะกรรมการพรรครีพับลิกันแห่งชาติ หลังเผชิญข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ     วันที่ 29 ม.ค. 61 -- นายสตีฟ วินน์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ผู้คร่ำหวอดแวดวงกาสิโนในลาสเวกัส อายุ 76 ปี ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งประธานการเงินของคณะกรรมการพรรครีพับลิกันแห่งชาติ หลังจากสื่อ ‘วอลล์ สตรีท เจอร์นัล’ รายงานว่า นายวินน์ได้คุกคามพนักงานนวด และบังคับให้พนักงานคนหนึ่งมีเพศสัมพันธ์กับเขา แม้ว่าเขาจะยืนยันว่า ไม่ได้กระทำความผิด และระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องไร้สาระ และยังกล่าวโทษต่ออดีตภรรยา ซึ่งอยู่ระหว่างต่อสู้กันในชั้นศาลว่า พูดจาใส่ร้ายเขา     ‘นายวินน์’ นับเป็นบุคคลทรงอำนาจรายล่าสุด ที่ต้องรับบทลงโทษจากข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศในสหรัฐอเมริกา โดยเขาเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานบริหาร ‘วินน์ รีสอร์ต’ ซึ่งเป็นธุรกิจกาสิโนที่มั่งคั่ง และครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่แข่งของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากนั้น เขาได้ให้การสนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2559 และบริจาคเงินให้แก่พรรครีพับลิกันหลายครั้ง โดยเขาได้รับแต่งตั้งเป็นประธานฝ่ายการเงินของคณะกรรมการพรรค หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ก้าวขึ้นสู่อำนาจ     นอกจากนั้น ‘วอลล์ สตรีท เจอร์นัล’ ยังรายงานอ้างอิงข้อมูลจากพนักงานทั้งในอดีตและปัจจุบัน ว่า นายวินน์ได้สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่คุกคามพนักงานหญิง ทำให้พนักงานต้องหาทางช่วยพนักงานหญิงที่จะตกเป็นเหยื่อ เช่น ลงบันทึกหลอกว่า ไม่ว่างที่จะไปรับใช้ในห้องทำงานของนายวินน์ หรือ เข้าไปพร้อมกัน เพื่อเลี่ยงการต้องอยู่สองต่อสอง ขณะที่ พนักงานหญิงบางคนถึงกับหลบในห้องน้ำ หากรู้ว่า เขาจะผ่านมาทางที่พวกเธอทำงานอยู่ อย่างไรก็ดี พนักงานส่วนใหญ่ เปิดเผยว่า กลัวไม่มีงานทำ เพราะอิทธิพลของเขา