svasdssvasds

ค้าปลีกสหรัฐแข่งดุ!“ อะเมซอน' ปะทะ 'วอลมาร์ท “

ค้าปลีกสหรัฐแข่งดุ!“ อะเมซอน' ปะทะ 'วอลมาร์ท “

ในขณะที่กระแสการช็อบปิ้งออนไลน์ทั่วโลกกำลังมาแรงนั้น เว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ในสหรัฐก็กลับไปซื้อธุรกิจร้านค้าปลีกเพื่อขยายธุรกิจเช่นกัน ไปติดตามการแข่งขันอันดุเดือดระหว่างเว็บไซต์ช็อบปิ้ง ออนไลน์ชื่อดัง อย่างอะเมซอน กับ ห้างค้าปลีกอย่างวอลมาร์ท กันได้ในรายงานชิ้นนี้

เมื่อเดือนมิถุนายน 2017 นาย เจฟฟ์ บีซอส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของอะเมซอน เจ้าพ่อเว็บไซต์ อี-คอมเมิร์ซ ระดับโลก ได้ตัดสินใจเข้าซื้อเครือข่ายร้านค้าปลีกอาหารสด อย่าง “โฮล ฟู้ด มาร์เก็ต” เป็นมูลค่า 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความเคลื่อนไหวครั้งนั้นสร้างความประหลาดใจไปทั่วโลก ว่า เพราะอะไรเจ้าพ่ออี-คอมเมิร์ซ อย่าง อะเมซอน กลับควักเงินมหาศาล เข้ามาลงทุนในร้านค้าปลีก ทั้งๆที่แนวโน้มของการช็อบปิ้งออนไลน์ ทั่วโลกอยู่ในทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ความเคลื่อนไหวของ อะเมซอน ในครั้งนั้น ในแท้จริงแล้ว ได้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ที่ร้านค้าในโลกออนไลน์ กำลังกระโดดลงไปจับตลาดร้านค้าปลีก และในขณะเดียวกัน ร้านค้าปลีก ก็กำลังรุกตลาดออนไลน์ควบคู่กันไป

ค้าปลีกสหรัฐแข่งดุ!“ อะเมซอน' ปะทะ 'วอลมาร์ท “

การเข้าซื้อ โฮล ฟู้ด มาร์เก็ต ของอะเมซอนนั้น เป็นผลสืบเนื่องหลังจากที่ “วอลมาร์ท” ห้างค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ได้เข้าซื้อ เว็บไซต์ “เจ็ต ดอต คอม” ในเดือนสิงหาคม 2016 มูลค่า 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1 ปีก่อนหน้าที่ อะเมซอน ซื้อโฮล ฟู้ด มาร์เก็ต

 

ค้าปลีกสหรัฐแข่งดุ!“ อะเมซอน' ปะทะ 'วอลมาร์ท “

ถือเป็นสัญญาณชัดว่า ร้านค้าปลีกอย่างวอลมาร์ทกำลังรุกพื้นที่ตลาดออนไลน์ที่อะเมซอนครองพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ จึงทำให้อะเมซอน ต้องรุกกลับเข้าไปขยายธุรกิจร้านค้าปลีก ของวอลมาร์ท บ้างเช่นกัน

การแข่งขันของ 2 ธุรกิจยักษ์ใหญ่ดังกล่าว ได้สะท้อนให้เห็นว่า ห้างค้าปลีกเองก็ไม่สามารถอิงตลาดผู้สื่อทั่วไปได้เพียงอย่างเดียว ต้องหันมาจับตลาดเพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดออนไลน์ควบคู่กันไป เพราะว่าไม่สามารถที่จะอิงกับตลาดใดตลาดหนึ่งได้ ซึ่งกลายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ห้างค้าปลีก และเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซ จำเป็นต้องครอบครองส่วนแบ่งในทุกตลาดให้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น น่าสนใจที่ในตลาดสหรัฐนั้น แม้ว่าการช็อบปิ้งผ่านออนไลน์จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในแต่ละปี แต่จากผลสำรวจเรื่อง “อนาคตของตลาดอุปโภคบริโภค ในช่องทางอีคอมเมิร์ซ” พบว่าในสหรัฐอเมริกา ปริมาณการจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านระบบออนไลน์นั้นมีสัดส่วนเพียง 1.4% ของการจับจ่ายใช้สอยทั้งหมด ซึ่งถือว่าน้อยกว่าในหลายๆ อย่างเกาหลีใต้ที่สัดส่วนการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านออนไลน์สูงที่สุดถึง 16.6% รองลงมาคือญี่ปุ่น 7.2% สหราชอาณาจักร 6.9% ฝรั่งเศส 5.3% ไต้หวัน 5.2% และจีน 4.2%นอกจากนั้น 73% ของจำนวนครัวเรือนในสหรัฐบอกว่า ยังชอบที่จะไปซื้อสินค้าตามร้านค้าปลีก เพราะสามารถเห็นสินค้าจริง จับต้องได้ มากกว่าจะซื้อผ่านออนไลน์ และ 39% บอกว่าไม่อยากแชร์ข้อมูลส่วนตัวให้กับเว็บไซต์ ขณะที่ 11% มีปัญหาการใช้งาน หรือเข้าถึงเว็บไซต์ช็อปปิ้ง

ค้าปลีกสหรัฐแข่งดุ!“ อะเมซอน' ปะทะ 'วอลมาร์ท “

ดังนั้น การแข่งขันกันระหว่าง “อะเมซอน” และ “วอลมาร์ท” ที่ต่างกระโดดเข้าจับธุรกิจของฝ่ายตรงกันข้ามอย่างดุเดือดนั้น จึงสะท้อนให้เห็นว่า การจับทั้งตลาดค้าปลีกที่ผู้คนไปสัมผัสเลือกสินค้าได้ด้วยตัวเอง และการช็อบปิ้งผ่านออนไลน์นั้น น่าจะเป็นองค์ประกอบที่เสริมซึ่งกันและกัน มากกว่าที่จะถูกแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง

ทีมข่าวเศรษฐกิจสปริงนิวส์ ...........รายงาน

related