"นาซา" เร่งหาวิธียับยั้ง! ดาวยักษ์จ่อชนโลก

วันนี้( 25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ Metro เผย นักวิทยาศาสตร์ ทีมปกป้องดาวเคราะห์ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ นาซา กำลังเร่งทำงานเพื่อหาวิธียับยั้งไม่ให้ดาวเคราะห์น้อยขนาดยักษ์ Bennu พุ่งชนโลกในปี ค.ศ.2135 หรือ พ.ศ.2678 หรืออีก 117 ปีข้างหน้า ซึ่งอาจสร้างความเสียหายแก่โลกเป็นอย่างมาก อาจมีคนล้มตาย เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมนักวิชาการจากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ (Lawrence Livermore National Laboratory) ได้เผยแพร่ตีพิมพ์ผลการศึกษา ชิ้นที่ 2 เพื่อมุ่งหาวิธีที่จะหยุดยั้งดาวเคราะห์น้อย Bennu ไม่ให้ชนโลก โดยได้ข้อสุรปว่า นาซาไม่สามารถใช้ยานอวกาศที่สร้างขึ้นมาใหม่ผลักดันให้ดาวเคราะห์น้อย Bennu เปลี่ยนเส้นทางโคจร เพื่อที่จะได้ไม่พุ่งชนโลกได้ จึงทำให้ในขณะนี้ ทีมนักวิชาการดังกล่าว กำลังวิจัยขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับรายละเอียดของการใช้ ‘นิวเคลียร์’ ด้วยการส่งจรวดติดอาวุธทำลายล้างสูงขึ้นไปยิงทำลายดาวเคราะห์น้อย Bennu ก่อนจะพุ่งชนโลก

อีกทั้ง เว็บไซต์ Metro ได้รับทราบว่า การวิจัยอย่างต่อเนื่องถึงการใช้จรวดติดอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นไปยิงดาวเคราะห์น้อย Bennu นั้นเสร็จสิ้นแล้ว และเตรียมจะถูกตีพิมพ์ลงในวารสารด้านวิชาการฉบับหนึ่ง ขณะที่ผลการศึกษาวิจัยที่เผยแพร่ออกมาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุด้วยว่า ยานอวกาศของนาซา HAMMER ได้ถูกออกแบบสำหรับปฏิบัติการผลักดันดาวเคราะห์น้อย Bennu เข้าสู่วงโคจรใหม่ รวมทั้งการทำลายดาวเคราะห์น้อยดวงนี้โดยอานุภาพของนิวเคลียร์

ผลการวิจัยชี้ว่า ยานอวกาศ HAMMER จะไม่สามารถผลักดันดาวเคราะห์น้อย Bennu ให้เปลี่ยนเส้นทางโคจรได้ หากยานอวกาศลำนี้ไม่ถูกยิงขึ้นสู่ห้วงอวกาศภายในไม่กี่สิบปีข้างหน้า ก่อนจะถึงกำหนดวันที่ดาว Bennu อาจชนโลก หรือจะมีการส่งยานอวกาศหลายสิบลำขึ้นในอวกาศช่วงเวลาเดียวกัน

สำหรับดาวเคราะห์น้อย Bennu มีความกว้าง 500 เมตร และมีน้ำหนัก 79,000 กิโลกรัม นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า โอกาสที่ดาวเคราะห์น้อย Bennu จะพุ่งชนโลกในวันที่ 25 ก.ย. 2135 นั้น อยู่ที่ 1 ใน 2,700 คาดว่าหากดาวเคราะห์น้อย Bennu ชนโลกจริงจะก่อให้เกิดพลังงานถึง 1,200 เมกะตัน หรือคิดเป็นพลังงานที่มากกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่สหรัฐฯ ใช้ถล่มเมืองฮิโรชิมาในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึง 80,000 เท่า