svasdssvasds

ย้อนไทม์ไลน์ 'สหรัฐฯ'สั่งถล่ม'ซีเรีย'

ย้อนไทม์ไลน์ 'สหรัฐฯ'สั่งถล่ม'ซีเรีย'

เราจะไปย้อนดูสถานการณ์ที่นำไปสู่การโจมตีครั้งนี้ล่าสุดของสหรัฐฯและพันธมิตร

7 เม.ย.61

มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 75 คนจากการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในเมืองดูมา ซึ่งยึดครองโดยกลุ่มกบฎซีเรีย รัฐบาลซีเรียและรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้อาวุธเคมี และอ้างว่ามีการปั้นหลักฐานเรื่องดังกล่าว

9 เม.ย.61

รัสเซียอ้างอิสราเอลยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศของซีเรียเช้ามืดวันจันทร์ ขณะที่ ประธานาธิบดีนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯประกาศว่าเขาจะตัดสินใจเรื่องการตอบโต้ซีเรียภายในวันนี้ภายใน 24-48 ชั่วโมง

10 เม.ย.61

ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศส ย้ำมีการใช้อาวุธเคมีจริงและเรียกร้องประชาชาคมโลกร่วมกันตอบโต้ซีเรีย แต่ทางการซีเรียแถลงว่าได้เชิญองค์กรห้ามอาวุธเคมีเข้าไปสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ในขณะเดียวกันรัฐบาลซีเรียมีการประกาศเตือนกองทัพทั่วประเทศให้เฝ้าระวังการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ขณะที่รัสเซียเตือนสหรัฐฯว่า สถานการณ์ตอนนี้อันตรายมา หากสหรัฐฯสั่งโจมตี อาจนำไปสู่การปะทะทางทหารได้

11 เม.ย.61

เส้นตายของผู้นำสหรัฐฯผ่านไปแล้ว แต่ยังไม่มีการโจมตี ทรัมป์ทวีทข้อความ ระบุให้รัสเซียเตรียมให้พร้อม ขีปนาวุธกำลังมุ่งหน้าไปซีเรีย และบอกว่ารัสเซียไม่ควรเป็นพันธมิตรกับชาติที่ฆ่าประชาชน ขณะเดียวกันยูโรคอนโทรล หน่วยงานควบคุมการบินของสหภาพยุโรปแจ้งเตือนสายการบินต่างๆระวังการโจมตีทางอากาศที่ซีเรียในช่วง 72 ชั่วโมงข้างหน้า

12 เม.ย.61

ทรัมป์ ทวีตข้อความอีกครั้ง ระบุว่า แต่เป็นท่าทีถอย โดยระบุว่าการโจมตีซีเรียอาจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ หรือไม่เร็วๆนี้ก็เป็นได้ สร้างความสับสนให้ผู้คนถึงจุดยืนของเขา

13 เม.ย.61

"ทรัมป์" ประกาศการโจมตีเป้าหมายอย่างแม่นยำเพื่อต่อต้านระบอบของนายบาชาร์ อัล อัสซาดที่ใช้อาวุธเคมี ตามมาด้วยการแถลงของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และการออกแถลงการณ์ของประธานาธิบดีฝรั่งเศสในการโจมตีร่วมกัน และมีรายงานว่าการโจมตีซีเรียเริ่มขึ้นในเวลา 21.00 น.ของคืนวันที่ 13 เม.ย.61 วันเดียวกันนี้ รัสเซียเตือนว่าให้ระวังผลที่จะตามมา

related