"ชาวโรฮิงญา" ชุดแรกกลับรัฐยะไข่แล้ว

รัฐบาลเมียนมาภายใต้การนำของนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา แถลงการณ์ว่า ชาวมุสลิมโรฮิงญาชุดแรก เป็นครอบครัวสมาชิก 5 คน ได้เดินทางกลับมาที่รัฐยะไข่ จากค่ายผู้ลี้ภัยชั่วคราวในบังกลาเทศแล้ว โดยได้เข้าไปพำนักอยู่ที่ค่ายชาวโรฮิงญาในเมือง”ตองปีลัตไว” (Taungpyoletwei) ในรัฐยะไข่

องค์กรสิทธิมนุษยชนสากล หรือ “เอฟไอดีเอช” กล่าวโจมตีคำประกาศนำตัวชาวโรฮิงญากลับรัฐยะไข่ของรัฐบาลเมียนมาว่า เป็นเพียงการแสดงเพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมภาพลักษณ์ของรัฐบาลเท่านั้น เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจออกจากข้อกล่าวหาของสหประชาชาติว่า เมียนมากำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา เพราะก่อนที่จะดำเนินการนำตัวชาวโรฮิงญากลับประเทศนั้น รัฐบาลเมียนมาควรจะต้องเคารพและรับรองสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานให้ชาวโรฮิงญาก่อน อีกทั้ง สถานการณ์ในรัฐยะไข่ตอนนี้ ยังไม่ปลอดภัยเพียงพอจะให้ชาวโรฮิงญากลับเข้าไปได้

ด้านคณะกรรมาธิการผู้ลี้ภัยของบังกลาเทศระบุว่า ก่อนหน้าที่จะเดินทางกลับรัฐยะไข่ ครอบครัวนี้เคยอาศัยอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยชั่วคราวที่ตั้งอยู่บนผืนดินที่ไม่ได้เป็นของประเทศใด ระหว่างพรมแดนเมียนมาและบังกลาเทศ ดังนั้น ถือว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่อยู่ในความควบคุมของรัฐบาลบังกลาเทศ และไม่แน่ชัดว่า ยังมีชาวโรฮิงญาบนผืนดินดังกล่าวอีกกี่คน ที่กำลังรอกลับเข้าไปในรัฐยะไข่

ตามแถลงการณ์ของรัฐบาลเมียนมานั้น เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้จัดทำบัตรรับรองตัวตน หรือเอ็นวีซี ให้กับครอบครัวชาวโรฮิงญาทั้ง 6 คน ซึ่งบัตรรับรองตัวตนนี้ ไม่ใช่บัตรประจำตัวประชาชน และไม่ได้มอบสิทธิพลเรือนให้ชาวโรฮิงญา โดยภาพที่เผยแพร่พร้อมกับแถลงการณ์นั้น แสดงให้เห็นผู้ชาย 1 คน ผู้หญิง 2 คน และเด็กหญิง 1 คน พร้อมภาพของเด็กชายที่กำลังรับบัตรรับรองตัวตน และเข้ารับการตรวจร่างกายด้วย อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ของรัฐบาลเมียนมา ไม่ได้ระบุถึงแผนสำหรับชาวโรฮิงญาชุดต่อไป ที่จะเดินทางกลับเข้ามาในอนาคต