โอพีซีดับเบิ้ลยู ยังรอยูเอ็นไฟเขียวเข้าซีเรีย สอบเหตุใช้อาวุธเคมี

ทางการซีเรียเปิดเผยว่า คณะผู้ตรวจสอบของ องค์การห้ามอาวุธเคมี หรือ โอพีซีดับเบิ้ลยู จะเดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจตรวจสอบว่ามีการใช้อาวุธเคมีเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และถ้ามีจะเป็นอาวุธเคมีชนิดไหน ในเมืองดูมา พื้นที่ในความควบคุมของฝ่ายกบฏซีเรีย ที่มีรายงานว่าเป็นจุดที่กองทัพรัฐบาลซีเรียก่อเหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมีเมื่อวันที่ 7 เมษายน หากว่าสหประชาชาติมีคำอนุมัติแล้วว่าพื้นที่ดังกล่าวปลอดภัยดี ซึ่งก่อนหน้านี้สื่อซีเรียรายงานว่า คณะผู้ตรวจสอบอาวุธเคมีได้เดินทางเข้าสู่เมืองดูมาแล้ว แต่ต่อมาทางการซีเรียก็แถลงว่า มีเพียงหน่วยความมั่นคงของสหประชาชาติเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุได้ ขณะที่เอกอัครราชทูตซีเรียกล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า เมื่อวานนี้หน่วยความมั่นคงของสหประชาชาติได้เดินทางไปเยือนเมืองดูมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เวลาได้ผ่านไปแล้วถึง 10 วัน นับตั้งแต่ที่เกิดเหตุโจมตีขึ้น ทางสหประชาชาติจึงมีความกังวลเกิดขึ้นว่า รัสเซียอาจใช้โอกาสนี้เข้าทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อให้คณะผู้ตรวจสอบไม่สามารถค้นหาความจริงได้ เพราะตามจริงแล้วคณะผู้ตรวจสอบของโอพีซีดับเบิ้ลยูได้เดินทางถึงกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าเมืองดูมา ซึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาผู้อำนวยการของโอพีซีดับเบิ้ลยูกล่าวว่า ทางการซีเรียและรัสเซียปิดกั้นไม่ให้เข้าเมืองดูมา แต่ให้ทางโอพีซีดับเบิ้ลยูสัมภาษณ์พยาน 22 คนแทน

ทั้งรัฐบาลซีเรียและรัสเซีย ที่ต่างก็ยืนกรานมาตลอดว่าไม่ได้ใช้อาวุธเคมี อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยที่ไม่สามารถยอมให้คณะผู้ตรวจสอบอาวุธเคมีเดินทางเข้าเมืองดูมาได้ตั้งแต่แรก เพราะในช่วงนั้นกองทัพสหรัฐ, อังกฤษ และฝรั่งเศส ก็ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่ซีเรีย เพื่อตอบโต้ในข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนพอดี พร้อมกล่าวโทษว่าฝ่ายกบฏ ที่มีชาติตะวันตกให้การสนับสนุน เป็นฝ่ายที่ใช้อาวุธเคมี หรือ สร้างสถานการณ์ปลอมๆขึ้นมา นอกจากนี้รัสเซียยังปฏิเสธว่าไม่ได้พยายามทำลายหลักฐาน แถมยังสนับสนุนภารกิจของโอพีซีดับเบิ้ลยูอีกด้วย

ขณะที่ซาอุดีอาระเบียแสดงเจตจำนงที่จะส่งกำลังทหารไปยังซีเรีย โดยรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯกล่าวว่า รัฐบาลซาอุฯกำลังหารือกับสหประชาชาติในเรื่องดังกล่าวอยู่ นอกจากนี้ยังเผยว่า ซาอุฯอาจให้การสนับสนุนสหรัฐทางการเงินอีกด้วย