svasdssvasds

"DJ Avicii" เมื่อความรุ่งโรจน์มาพร้อมกับ “อเวจี” บนดิน

"DJ Avicii" เมื่อความรุ่งโรจน์มาพร้อมกับ “อเวจี” บนดิน

DJ Avicii ศิลปินแนวเพลง EDM ชาวสวีเดน ผู้พลิกหน้าประวัติศาสตร์วงการดนตรี EDM ให้ผงาดขึ้นมาเป็นที่นิยมในวงการดนตรีทั่วโลก ประกาศอำลาวงการเพลงในปี 2016 หลังมีปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการดื่มเหล้าอย่างหนัก ต่อมาเขาเสียชีวิตลง ด้วยวัย 28 ปีเมื่อเมษายน ปี 2018 ด้วยสาเหตุที่ยังไม่ทราบแน่ชัด

ที่มาของชื่อในวงการของ Tim Bergling ที่หลายคนยังไม่รู้

ในปี 2011 Tim Bergling เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ที่เขาเลือกใช้ชื่อในวงการว่า Avicii มาจากคำว่า “Avici” หรือ “อเวจี” นรกขั้นที่ต่ำที่สุดในหลักศาสนาพุทธ และที่เจ้าตัวเพิ่มตัว “i” อีกหนึ่งตัวเพราะมีคนอื่นใช้ไปหมดแล้วใน myspace.com 

ความสามารถทางด้านดนตรีที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์ให้กับวงการเพลง EDM

"DJ Avicii" กลายเป็นที่รู้จักในเวลาอันรวดเร็วด้วยบทเพลงยอดนิยมอย่าง “Level” ปี 2011 ที่มีการนำเสียงร้องของศิลปินตำนานยุค 60s อย่าง Etta James จากเพลง Something’s Got a Hold On Me มาใช้ ซึ่งเพลงนี้ได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่ สาขา Best Dance Recording ในปี 2013

แต่ทืี่ทำให้เขากลายเป็นศิลปินแนวเพลง EDM ที่ได้รับการยอมรับและเทียบชั้นกับศิลปินแนวเพลง Pop นั้นก็คือความสำเร็จจากเพลง “Wake Me Up” ปี2013 จากอัลบั้มชุดแรกที่ชื่อว่า True เป็นเพลงแรกที่ทุบสถิตการสตรีมมากที่สุดถึง 200 ล้านครั้งใน Spotify หรือเฉลี่ยแล้วมีการฟังผ่านแอพลิเคชั่น 4 ล้านครั้งต่อสัปดาห์

https://www.youtube.com/watch?v=IcrbM1l_BoI

พร้อมทั้งเป็นดีเจที่มีชื่อติดอันดับในแทบจะทุกๆ ชาร์จ อย่างนิตยสาร Forbes ประกาศให้เขาเป็นเจ้าของตำแหน่งดีเจที่ทำรายได้สูงสุดด้วยเม็ดเงิน 28 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 880 ล้านบาทในปี 2014 เขามีชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ 2 ครั้ง ในปี 2012 และ 2013 และเขายังติดอันดับ Top 3 ของดีเจระดับโลกในปี 2012 จัดโดย DJ Mag อีกด้วย

ตารางการทำงานที่บ้าคลั่ง ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพกายและสภาพจิตใจอย่างหนัก

"DJ Avicii" เมื่อความรุ่งโรจน์มาพร้อมกับ “อเวจี” บนดิน

ผลพวงจากความสำเร็จแบบรุกหน้าสร้างความทุกข์ให้กับ "DJ Avicii" อย่างแสนสาหัส ด้วยตารางงานที่แน่นขนัดชนิดลืมเตียงนอน นับกันแค่มกราคมปี 2011 ถึงมกราคม 2016

-"DJ Avicii" ต้องทำการแสดงแบบ DJ SETS เพียงอย่างเดียวนับได้ 220 ครั้งภายใน 261 สัปดาห์

-ขึ้นรถบัสไปทัวร์คอนเสิร์ตในบ้านเกิดทั้ง 26 โชว์ภายใน 27 วัน เฉพาะในเดือนมกราคม 2012

-ระหว่างบินไปมาข้ามประเทศข้ามทวีปเพื่อทำการแสดงข้างต้น เขาปล่อยอัลบั้มมา 2 อัลบั้มเต็ม และ 3 อัลบั้มย่อย  

- 1 ใน 3 ซิงเกิ้ลอย่าง “Wake Me Up” กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์จทั่วโลก ที่แฟนๆ อยากสัมผัสการแสดงสด ส่งผลให้แค่ 365 วันใน ปี2013 แค่ปีเดียว "DJ Avicii" ต้องทำการแสดงมากกว่า 320 โชว์

-นับรวมๆ แล้ว ตลอดระยะ 5 ปี Avicii ทำการแสดงมากว่า 800 โชว์

ด้วยสภาพเวดล้อมที่มากมายด้วยแรงกดดันและสารเสพติด "DJ Avicii" ก็เป็นศิลปินคนนึงที่ใช้แอกอฮอล์เป็นทางออกให้กับแรงกดดันจากการทำงานหนักกระทั่งต้องเผชิญกับโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันในปี 2013 และต้องเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งและถุงน้ำดีออกในปี 2014 สุขภาพที่ทรุดโทรมเรื้อรัง ประกอบกับความตึงเครียดจากการทำงานหนักที่บั่นทอนจิตใจ ส่งผลให้เขาตัดสินใจประกาศอำลาวงการในปี 2016

"ผมอาจตายได้ หากยังทำการแสดงต่อไป"

“ผมโชคดีที่ได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อแสดงผลงาน แต่มันก็ทำให้ชีวิตของผมในส่วนที่เป็น “คนธรรมดา” ที่อยู่เบื้องหลังความเป็นศิลปินไม่เหลืออะไรเลย”

เป็นบทสัมภาษณ์เมื่อปี 2017 ที่ศิลปินชาวสวีเดนคนนี้ได้พูดไว้ใน “Avicii : True Stories” ภาพยนตร์ชีวประวัติที่บันทึกชีวิตเบื้องหลังการทำงานตลอด 4 ปีของศิลปินคนหนึ่งไม่หลงเหลือชีวิตธรรมดาอีกต่อไป กำกับโดย Levan Tsikurishvili ออกอากาศในเดือนตุลาคมเมื่อปี 2017 หรือ 6 เดือนของการจากไปของ DJ Avicii

 

ขอขอบคุณ Avicii True Stories

www.junkee.com

 

 

related