วิจารณ์หนัก! สหรัฐฯใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม

หลังจากที่สหรัฐประกาศว่าจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าเหล็กที่ 25 เปอร์เซ็นต์ และเก็บภาษีนำเข้าอะลูมิเนียม 10 เปอร์เซ็นต์ จากประเทศคู่ค้าอย่างเม็กซิโก, แคนาดา รวมถึงประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู เริ่มต้นตั้งแต่เที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ ก็ได้เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากทางเม็กซิโก, แคนาดา และหลายประเทศในอียู ที่ประกาศว่าจะตอบโต้มาตรการของสหรัฐ

โดยสหราชอาณาจักรกล่าวรู้สึกผิดหวังในการตัดสินใจของสหรัฐ และว่านั่นเป็นลัทธิคุ้มครองการค้า ขณะที่นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า มาตรการของสหรัฐเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และว่าอียูไม่มีทางเลือกนอกจากต้องนำเรื่องนี้เข้าหารือกับองค์การการค้าโลก รวมทั้งเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐด้วย ด้านนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวว่า การเก็บภาษีของสหรัฐ เป็นการดูหมิ่นความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างแคนาดากับสหรัฐอย่างมาก ดังนั้นแคนาดาจึงมีแผนที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ เริ่มต้นวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ส่วนเม็กซิโกก็กล่าวว่ามีแผนที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ยังได้ต่อสายตรงไปหาประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่าการกระทำของสหรัฐนั้นผิดกฎหมาย และว่าอียูจะตอบโต้สหรัฐอย่างเหมาะสม

แม้แต่สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐจากพรรครีพับลิกันเองก็มีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม โดยนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจดังกล่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพราะสหรัฐควรจะร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อแก้ปัญหาการค้าที่ไม่ยุติธรรมของประเทศอย่างจีน มากกว่าที่จะมาทำร้ายกันเองเช่นนี้

ด้านหอการค้าสหรัฐเตือนว่า มาตรการเข้มงวดด้านการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์อาจสร้างความเสี่ยงการตกงานให้แก่แรงงานชาวอเมริกันมากถึง 2.6 ล้านตำแหน่ง ซึ่งการที่สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมอาจทำให้ชาวอเมริกันสูญเสียงาน 470,000 ตำแหน่ง และการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และอะไหล่อาจทำให้สูญเสียงาน 157,000 ตำแหน่ง