svasdssvasds

นักวิทยาศาสตร์หวั่นใจ! น้ำแข็งใน "ขั้วโลกใต้" กำลังละลายเร็วขึ้น

นักวิทยาศาสตร์หวั่นใจ! น้ำแข็งใน "ขั้วโลกใต้" กำลังละลายเร็วขึ้น

นักวิทยาศาสตร์เตือนระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้น และประเทศที่ติดทะเลจะประสบภัยน้ำท่วม หากน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ยังคงละลายอย่างรวดเร็วเช่นนี้

นักวิทยาศาสตร์หลายคนที่เฝ้าศึกษาและติดตามความเป็นไปในทวีปแอนตาร์กติกา หรือ ขั้วโลกใต้ ออกมาเตือนว่า หากปัญหาน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ละลายด้วยอัตราความเร็วเช่นนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น และประเทศต่างๆที่อยู่ติดกับทะเลจะประสบภัยน้ำท่วมหนัก นอกจากนี้ปลาและเพนกวินที่อาศัยอยู่ที่นั่นก็จะตายหมด ขณะที่ผลจากการสังเกตการณ์ด้วยดาวเทียมพบว่า ในแต่ละปีมีน้ำแข็งราว 200,000 ล้านตันละลายลงไป ส่งผลให้ทุกๆปีมีระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 0.6 มิลลิเมตร นับว่าเป็นอัตราการละลายของน้ำแข็งที่เร็วขึ้นกว่าเมื่อปี 2012 ถึง 3 เท่า

นักวิจัยกล่าวว่า การละลายของน้ำแข็งส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่บริเวณฝั่งตะวันตกของขั้วโลกใต้ ที่ซึ่งกระแสน้ำอุ่นไหลมาข้างใต้น้ำแข็งในทะเล

นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังได้จำลองสถานการณ์ไว้สองแบบ แบบแรกคือ หากไม่มีใครลงมือแก้ปัญหาลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และโลกยังคงร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำแข็งจำนวนมากในมหาสมุทรทางตอนใต้และขั้วโลกใต้จะละลาย และภายในปี 2070 น้ำแข็งจำนวน 1 ใน 4 อาจจะละลายหายไป ซึ่งในกรณีที่แย่ที่สุดอาจทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นราว 500 มิลลิเมตร จากระดับเดิมเมื่อปี 2000 ขณะที่ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอาจสร้างความเสียหายให้แก่สหรัฐได้มากถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และที่แย่ที่สุดก็คือ อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกอาจเพิ่มขึ้นถึง 3.5 องศาเซลเซียส

ส่วนสถานการณ์แบบที่สอง หากประชาคมโลกร่วมใจกันแก้ปัญหาโลกร้อน และจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ ภายในปี 2070 ก็มีโอกาสที่ขั้วโลกใต้จะยังมีสภาพใกล้เคียงกับที่เป็นอยู่ตอนนี้ ซึ่งแม้ว่าแผ่นน้ำแข็งในทะเลจะยังคงบางลงเรื่อยๆ แต่อัตราการละลายก็จะช้าลง ขณะที่จำนวนประชากรสัตว์บางสายพันธุ์จะลดลง แต่บางสายพันธุ์ก็จะสามารถปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้

related