svasdssvasds

หุ้นเฟซบุ๊กร่วงหนักเป็นประวัติการณ์

หุ้นเฟซบุ๊กร่วงหนักเป็นประวัติการณ์

หุ้นเฟซบุ๊กร่วงหนักเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงินที่สูญไปกว่า 3.5 ล้านล้านบาทในวันเดียว หลังทำกำไรได้ต่อกว่าเป้าที่วางไว้ติดต่อกัน 2 ไตรมาส โดยเชื่อว่าเป็นผลพวงจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กรณีข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล

นับเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดของเฟซบุ๊ก สังคมออนไลน์ยอดนิยม นับแต่เปิดไอพีโอ เข้าสู่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก เพราะเพียงวันเดียว หุ้นของเฟซบุ๊ก ร่วงลงถึง 19 เปอร์เซ็นต์ ปิดตลาดที่ 176.26 ดอลลาร์ต่อหุ้น หมายความว่า เฟซบุ๊กสูญเสียเงินไปกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3.5 ล้านล้านบาท อันที่จริง มีช่วงหนึ่งของการซื้อขาย ที่หุ้นเฟซบุ๊กตกลงถึง 24 เปอร์เซ็นต์ด้วย ถือเป็นอัตราการปรับลดที่ไม่เคยเกิดขึ้น กับบริษัทขนาดใหญ่ที่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

หุ้นเฟซบุ๊กร่วงหนักเป็นประวัติการณ์

การปรับลดหนักของหุ้นเฟซบุ๊ก เป็นผลจากผลกำไรที่พลาดเป้าที่คาดการณ์ไว้ติดต่อกัน 2 ไตรมาส ขณะที่ นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่า กำไรของเฟซบุ๊กจะลดลงอีกในไตรมาสต่อๆไป อันเป็นผลจากความวิตกและกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ถึงกรณีข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล และมาตรการรับมือของเฟซบุ๊ก

หุ้นเฟซบุ๊กร่วงหนักเป็นประวัติการณ์

ผมคิดว่าตอนนี้ คาดเดาอนาคตของเฟซบุ๊กได้ยาก แล้วยิ่งวันนี้ ยิ่งคาดเดาได้ยากกว่าเมื่อวานเสียอีกแต่แน่ชัดว่า เฟซบุ๊กกำลังเปลี่ยนไป และพลวัตของผู้ใช้ก็กำลังเปลี่ยนไปเช่นกัน รวมถึงผู้ลงโฆษณาเอง ก็เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม กรณีอื้อฉาวที่ผ่านมา 2 ปีนั้น ทำให้น่าสนใจว่า ท้ายสุดแล้วเฟชบุ๊คจะเป็นยังไง คนจำนวนมากกดดันให้เฟซบุ๊ก แก้ปัญหาอย่างจริงจัง และไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่าการกดดันทางการเงินเฟซบุ๊กอีกแล้ว - เอียน เชอร์ บรรณาธิการบริษัท สำนักข่าว ซีเน็ต นิวส์

ด้านเฟซบุ๊กนั้นยอมรับว่า ผลกำไรที่ชะลอตัวลงนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการเพื่อแก้ปัญหาด้านความปลอดภัยและการพิทักษ์ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ทั้งนี้ ก็ยอมรับว่า กำไรจากโฆษณานั้นลดลงมาก ทั้งที่เป็นช่องทางทำเงินเกือบทั้งหมดของเฟซบุ๊ก อย่างไรก็ดี เฟซบุ๊กรายงานว่า ฐานผู้ใช้นั้นยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ไม่เติบโตเท่าที่คาดการณ์ไว้ โดยจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นนั้น เพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์ เป็น 2 พัน 230 ล้านคน จากที่คาดไว้ที่ 2 พัน 250 ล้านคน

หุ้นเฟซบุ๊กร่วงหนักเป็นประวัติการณ์

ในวันเดียวกัน ฐานข้อมูลของรัฐบาลจีนแสดงผลว่า ได้อนุมัติเฟซบุ๊กให้เปิดบริษัทลูกในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นมณฑลเดียวกับที่เฟซบุ๊กต้องการสร้างศูนย์นวัตกรรม แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ใบอนุญาติเปิดบริษัทดังกล่าว ได้ถูกถอดออกจากฐานข้อมูล โดยแหล่งข่าวของหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์สระบุว่า แม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เฟชบุ๊คจะเข้าให้บริการในจีน แต่แนวโน้มจะประสบความสำเร็จนั้น ถือว่าน้อยมาก ขณะที่โฆษกของเฟซบุ๊ก และฝั่งรัฐบาลจีนเอง ไม่แสดงความเห็นในเรื่องนี้

หุ้นเฟซบุ๊กร่วงหนักเป็นประวัติการณ์

related