svasdssvasds

ญี่ปุ่น เป้าหมายต่อไปสงครามการค้าสหรัฐฯ

ญี่ปุ่น เป้าหมายต่อไปสงครามการค้าสหรัฐฯ

ขณะที่สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯกำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ สำนักข่าวต่างชาติวิเคราะห์ว่า ชาติต่อไปที่จะตกเป็นเป้าสงครามการค้า นั่นก็คือ ประเทศญี่ปุ่น

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่าญี่ปุ่นอาจะเป็นรายต่อไปที่อาจเผชิญการตั้งกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมรถยนต์ เพราะที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐมักจะเอ่ยบ่อยครั้งว่า สหรัฐฯนั้นขาดดุลการค้ามหาศาลกับญี่ปุ่น

นายทรัมป์แสดงความเห็นต่อหนังสือพิมพ์ เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัลว่า เขานั้นมีความสัมพันธ์อันดีกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น แต่ก็อาจจบในเร็ววันนี้ถ้าหากเขาบอกกับญี่ปุ่นว่าควรจ่ายเงินให้สหรัฐฯเท่าไหร่

เอเอฟพีระบุว่า ในปีที่ผ่านมาสหรัฐฯขาดดุลการค้าให้ญี่ปุ่นราว 68.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 2.3 ล้านล้านบาท มากเป็นอันดับสามตามหลังจีน และเม็กซิโก ในขณะที่ตัวเลขจากทางการสหรัฐฯเผยว่า เฉพาะ 8 เดือนแรกของปีนี้ สหรัฐฯขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นไปแล้ว สี่หมื่นล้านเหรียญหรือราว 1.3 ล้านล้านบาท โดยสินค้ายานยนต์คิดเป็นสัดส่วนการค้าถึง 80%

ทั้งนี้ การเจรจาเบื้องต้นระหว่างนายโรเบิร์ต ไลท์ธิเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และนายโทชิมิทสุ โมเตกิ ผู้แทนการค้าญี่ปุ่นครั้งแรกได้เกิดขึ้นไปแล้ว แต่ไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ และการเจรจาครั้งที่สองมีขึ้นในวันจันทร์นี้

ประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายหารือแต่มีความเห็นที่ต่างกัน นั่นก็คือ ญี่ปุ่นต้องการแก้ปัญหาเรื่อง ทีพีพี หรือความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก ที่สหรัฐฯถอนตัวออกไป แต่สหรัฐฯ ยืนยัน ต้องการข้อตกลงการค้าแบบทวิภาคีเท่านั้น

ทั้งนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นอาจยอมรับข้อตกลงการค้าทวิภาคีก็เป้นได้ ถ้าหากสหรัฐฯตกลงชะลอการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าภาคยานยนต์ของญี่ปุ่น

นายฮูมิ ทากูชิ นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงว่านายทรัมป์ จะพุ่งเป้ามาที่ญี่ปุ่นทันที หลังบรรลุข้อตกลงอะไรบางอย่างกับจีนและนาฟต้าได้แล้ว

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า การแตะประเด็นภาษีสินค้ายานยนต์จากญี่ปุ่นนั้นเป็นอาวุธไม้ตายของสหรัฐฯ และการขึ้นภาษี 25% นั้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างมาก โดยคาดว่าจะกระทบต่อจีดีพีญี่ปุ่นราว 0.5%

นักวิเคราะห์ระบุว่า นายอาเบะคงต้องใช้ทักษะการเจรจากับนายทรัมป์อย่างมากเลยทีเดียว เพราะลำพังการรับปากว่าจะซื้ออุปกรณ์ทางการทหาร และเชล แก๊ส ดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จะทำให้นายทรัมป์ยอมเปลี่ยนใจ

related