จิงโจ้ออสเตรเลียดุ ทำร้ายอาสาสมัครให้อาหารปอดแตก-ซี่โครงหัก

เกิดเหตุจิงโจ้เข้าทำร้ายครอบครัวหนึ่ง ภายในบ้านที่รัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลียเมื่อคืนวานนี้ (13 ตุลาคม 2561) ทำให้นางลินดา สมิธ อาสาสมัครดูแลสัตว์ป่าอายุ 64 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัส ปอดแตก ซี่โครงหักและมีรอยแผลตามร่างกาย โดยเธอเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดในโรงพยาบาลวันนี้ รายงานระบุว่า ตามปกติแล้ว จิงโจ้และตัววัลลาบี้ราว 30 ตัวแถวๆบ้านจะมากินอาหารที่ลินดาและจิม ผู้เป็นสามีของเธอให้ในทุกคืน แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จิงโจ้ตัวผู้ ซึ่งมีความสูงราว 180 เซนติเมตร กลับพุ่งเข้าใส่จิมขณะที่เขากำลังให้อาหาร ลินดาจึงพยายามเข้าไปช่วยสามีเธอด้วยการคว้าไม้มาป้องกันตัวเอง แต่แล้วเธอก็ถูกจิงโจ้ทำร้ายไปด้วย หลังจากนั้นลูกชายวัย 40 ปีของเธอออกมาเห็นเข้าและพยายามช่วยเหลือด้วยการใช้พลั่วตีไปที่หัวของจิงโจ้ตัวดังกล่าว มันจึงกระโดดหนีกลับเข้าไปในป่า อย่างไรก็ตาม ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกได้รับบาดเจ็บทั้งหมด

ด้านเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยงานรถพยาบาลของรัฐควีนส์แลนด์เปิดเผยว่า ไม่ค่อยเกิดเหตุการณ์จิงโจ้ทำร้ายมนุษย์ขนาดนี้ แต่มันก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นเป็นจิงโจ้ตัวผู้ที่ตัวใหญ่ และถ้าหากลินดาไม่เข้าไปช่วยเหลือสามีของเธอ เขาก็อาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย

รายงานระบุว่า ลินดาทำงานเป็นอาสาสมัครดูแลสัตว์ป่ามานานถึง 15 ปีแล้ว และถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น เธอก็ไม่ต้องการให้มีการตามล่าจิงโจ้ตัวดังกล่าว เพราะมันเป็นสัญชาตญาณตามธรรมชาติของสัตว์ป่า ซึ่งเธอบอกว่า ตามปกติแล้วเธอมักจะระมัดระวังตัวเวลาให้อาหารพวกมัน โดยเฉพาะตัวผู้ เพราะพวกมันจะก้าวร้าวมากกว่าตัวเมีย

ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียเปิดเผยว่า จากการสำรวจเมื่อปีที่แล้วพบว่ามีจิงโจ้มากกว่า 46 ล้านตัวอาศัยอยู่ทั่วประเทศ แต่มีคำเตือนว่า ประชากรจิงโจ้กำลังลดลง เนื่องจากพื้นที่ราบทางตะวันออกของประเทศเผชิญกับภาวะแห้งแล้งเป็นเวลานาน จนส่งผลกระทบต่อพื้นที่อยู่อาศัยของพวกมัน