ปูตินขู่ตอบโต้ หากสหรัฐฯถอนตัวสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนติ ของอิตาลี ว่าถ้าสหรัฐฯตัดสินใจถอนตัวออกจากสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง รัสเซียต้องตอบโต้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังย้ำว่ารัสเซียพร้อมที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ สิ่งสำคัญคือการตัดสินใจที่ตามมา เขาหวังว่าจะได้หารือเรื่องนี้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ระหว่างการเยือนกรุงปารีสเพื่อร่วมงานครบรอบ 100 ปี การประกาศสงบศึกที่นำมาสู่การยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 เดือนหน้า

“คำถามคือสหรัฐฯจะทำอะไรกับขีปนาวุธใหม่ที่มีอยู่ ถ้าส่งไปยุโรป ปฏิกิริยาของเราก็ต้องสะท้อนสิ่งนี้ด้วย ประเทศยุโรปที่ตกลงกับสหรัฐฯ ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าพวกเขาได้ทำให้ประเทศตนเองอยู่ภายใต้ความเป็นไปได้ที่จะถูกโจมตีตอบโต้ เรื่องนี้ชัดเจน”

ตามข้อตกลงดังกล่าว สหรัฐฯและรัสเซียต้องกำจัดอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลางและพิสัยใกล้ทั้งหมดในระยะ 500 ถึง 5,500 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อสหรัฐฯและรัสเซียลงนามข้อตกลงในปี 1987 ส่งผลให้สหรัฐฯถอนขีปนาวุธนำวิถีออกจากยุโรป และเป็นผลให้โซเวียตถอนขีปนาวุธ SS-20 ออกจากพื้นที่เช่นเดียวกัน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯได้ประกาศความตั้งใจว่าจะถอนสหรัฐฯออกจากสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง ระบุว่ารัสเซียได้ละเมิดความตกลงนี้มาหลายปีแล้ว และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ จอห์น บอลตัน ก็ยังยืนยันการถอนตัวสหรัฐฯ ระหว่างการเยือนกรุงมอสโควเมื่อต้นสัปดาห์ ระบุว่าการที่รัสเซียละเมิดสนธิสัญญานี้ ก็นับเป็นเหตุผลเพียงพอแล้วที่จะยุติข้อตกลง อ้างรายงานยุครัฐบาลบารัค โอบามา ว่ารัสเซียได้ละเมิดสนธิสัญญาดังกล่าว ย้อนกลับไปอย่างน้อยตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งรัสเซียได้ปฏิเสธมาตลอด

“จุดยืนของอเมริกาคือรัสเซียละเมิด จุดยืนของรัสเซียคือรัสเซียไม่ได้ละเมิด เราก็ต้องถามแล้วว่าแล้วเราจะโน้มน้าวรัสเซียให้กลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงได้อย่างไร ถ้าเขาไม่คิดว่าเขาละเมิด"

"แล้วกิจกรรมที่ประเทศอื่นๆอย่าง จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ และอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในสนธิสัญญา ที่สามารถจะทำอะไรที่ต้องการก็ได้ และได้มีความก้าวหน้าทางศักยภาพ เราคาดว่าอย่างเช่นในกรณีของประเทศจีน”

ก่อนหน้านี้ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ดิมิทรี เพสคอฟ ระบุว่าหากสหรัฐฯถอนตัวจากสนธิสัญญา หมายความว่าสหรัฐฯจะพัฒนาระบบขีปนาวุธนิวเคลียร์อย่างเปิดเผยในอนาคต และถ้าเป็นเช่นนั้น ประเทศอื่นๆ และในกรณีนี้คือรัสเซีย ก็ต้องทำให้เกิดความสมดุล ขณะที่จีนได้ออกมาเรียกร้องให้สหรัฐฯไตร่ตรองเรื่องการถอนตัวอีกครั้ง