กระแสลดกระหน่ำวัน "แบล็คฟรายเดย์" ได้รับความนิยมในหลายประเทศ

เมื่อวานนี้ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เหล่าบรรดานักช้อปจำนวนมากต่างไปเฝ้ารอห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองพอทเชฟสตรูม เพื่อรอให้ห้างเปิดแล้วจะได้เข้าไปซื้อสินค้าลดราคา โดยภาพที่มีการโพสต์ลงบนสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นว่าชาวแอฟริกาใต้ตื่นเต้นเพียงใดกับการลดราคาครั้งใหญ่แห่งปี

 ขณะที่ในสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิดของการลดราคาสินค้าในวันแบล็คฟรายเดย์ เมื่อวานนี้เหล่านักช้อปก็ออกไปจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก โดยช่วงเวลาเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าและคริสต์มาสถือเป็นช่วงเวลาทองสำหรับร้านค้าต่างๆที่จะได้ทำยอดกัน เพราะรายได้จากช่วงนี้คิดเป็นมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์จากรายได้ทั้งหมดตลอดทั้งปี ขณะที่สภาค้าปลีกแห่งชาติคาดการณ์ว่า เหล่านักช้อปจะใช้จ่ายเงินเฉลี่ยคนละ 1 พันเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32,000 บาทเลยทีเดียวในช่วงนี้

ขณะที่ในอังกฤษ แบล็คฟรายเดย์ก็กลายเป็นวันลดราคาสินค้าครั้งใหญ่เช่นเดียวกัน โดยคาดการณ์กันว่ายอดจำหน่ายสินค้าในวันแบล็คฟรายเดย์จะพุ่งทะลุ 10,400 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 441,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1 เปอร์เซ็นต์จากสถิติเมื่อปี 2017

 แฟรนไชน์ร้านหนังสือชื่อดังในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ทางร้านก็จัดกิจกรรม “แฟร์ฟรายเดย์” ไม่ใช่ “แบล็คฟรายเดย์” แต่เป็นกิจกรรมที่เชิญชวนให้ลูกค้าบริจาคเงินทอนจำนวนเล็กน้อยจากการซื้อหนังสือเพื่อบริจาคให้แก่คนยากจน เนื่องจากการแบ่งปันถือเป็นหัวใจหลักของเทศกาลขอบคุณพระเจ้าก็ว่าได้

ทั้งนี้ แบล็คฟรายเดย์คือวันลดราคาสินค้าสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ริเริ่มขึ้นในสหรัฐ โดยจะตรงกับวันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งปีนี้ก็คือตรงกับวันนี้ และในวันจันทร์หลังวันขอบคุณพระเจ้าก็จะเป็นวันไซเบอร์มันเดย์ ซึ่งเป็นการลดราคาสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าครั้งยิ่งใหญ่ของปี