ทรัมป์ เตรียมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อสร้างกำแพงกั้นชายแดน

ทำเนียบขาวเปิดเผยในแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ มีแผนที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังจากที่เขาจะลงนามในร่างกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงบริเวณชายแดน เพื่อป้องกันการเกิดภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาล และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็จะเป็นการเปิดทางให้ประธานาธิบดีทรัมป์สามารถนำงบประมาณของกองทัพไปสร้างกำแพงกั้นชายแดนติดกับเม็กซิโกได้โดยที่ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส ซึ่งทำเนียบขาวกล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะใช้คำสั่งพิเศษนั้นก็เพื่อหยุดยั้งวิกฤตด้านความมั่นคงของชาติและมนุษยธรรมที่บริเวณชายแดน

ร่างกฎหมายดังกล่าวแม้จะมีงบประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนรวมอยู่ในนั้น แต่ก็ไม่ใช่งบประมาณจำนวน 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการ ซึ่งเมื่อวานนี้มีการลงคะแนนโหวตสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ในวุฒิสภา และสมาชิกวุฒิสภาก็ได้ลงคะแนนโหวต 83 ต่อ 16 เสียงอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าว จากนั้นสภาผู้แทนราษฎรก็ได้ลงคะแนนโหวต 300 ต่อ 128 เสียงอนุมัติร่างกฎหมายเช่นกัน 

ด้านสมาชิกระดับสูงของพรรคเดโมแครตออกมากล่าวประณามประธานาธิบดีทรัมป์ว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะเป็นการใช้อำนาจอย่างมิชอบ และเป็นการละเมิดกฎหมาย และว่าพรรคเดโมแครตจะต่อต้านอย่างถึงที่สุด ซึ่งอาจจะมีการยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะมีขึ้นในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤต ซึ่งในกรณีนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ชี้ว่า บรรดาผู้อพยพที่หลั่งไหลไปยังชายแดนสหรัฐติดกับเม็กซิโกทำให้เกิดวิกฤต ด้านผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะทำให้เขามีอำนาจพิเศษในการดึงงบประมาณจากกองทัพหรืองบประมาณบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติไปเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กำลังมีการถกเถียงกันว่า สถานการณ์บริเวณชายแดนนั้น อยู่ในขั้นที่เรียกว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินจริงหรือไม่