จีนเปิดประชุมสายแถบและเส้นทางครั้งที่สอง

พิธีเปิดการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum - BRF) ครั้งที่ ๒ เริ่มขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยปีนี้ การประชุมจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๖ - ๒๗ เมษายน ๒๕๖๒ ภายใต้หัวข้อ “ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง: สร้างอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นร่วมกัน” ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยมีผู้นำจาก ๓๘ ประเทศเข้าร่วม มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีหารือกำหนดทิศทางการดำเนินงานของข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative - BRI) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างประเทศ BRI ในด้านต่างๆ และจะมีการรับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุมผู้นำโต๊ะกลมของการประชุม BRF ครั้งที่ ๒ ด้วย

ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนกล่าวสุนทรพจน์ในการเปิดงานเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงความร่วมมือเพื่อก้าวเข้าสู่ความสำเร็จของโครงการดังกล่าว

เมื่อสองปีก่อน เราได้จัดการประชุมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศครั้งแรกที่นี่ วางแผนพิมพ์เขียวความร่วมมือที่เกี่ยวกับการติดต่อทางนโยบาย การเชื่อมโยง สิ่งอำนวยความสะดวก การคล่องตัวทางการค้า การผสมผสานของเงินทุน และการเชื่อมใจถึงกันของประชาชน ข้าพเจ้าหวังว่าจะร่วมมือกับทุกท่าน ปีนสู่ที่สูงมองไปให้ไกล จับมือก้าวหน้ากันไป ร่วมกันบุกเบิกพัฒนาอนาคตดีงามของ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"

นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า โครงการสายแถบและเส้นทางจะต้องโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ โดยผู้นำจีนให้คำมั่นว่า จะไม่ยอมให้เกิดการทุจริตขึ้นและจะป้องกันความเสี่ยงเรื่องการเกิดหนี้สิน จีนต้องการสร้างความมั่นใจว่าจะมีความยั่งยืนทางการเงินสำหรับทุกโครงการ เพื่อให้ประเทศเหล่านั้นประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางแผนเอาไว้

ความริเริ่มสายแถบและเส้นทางไม่ใช่คลับที่มีสิทธิพิเศษ สีเขียวคือสีพื้นฐาน เราสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การลงทุนแบบสีเขียว การเงินแบบสีเขียว ปกป้องบ้านเกิดที่พวกเราอาศัยอยู่ร่วมกัน ยืนหยัดให้ความร่วมมือทุกด้านทุกรายให้ดำเนินการภายใต้มาตรฐานเดียวกัน เน้นการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น

นอกจากนี้ จีนยังเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ ปฏิบัติต่อจีนและบริษัทของจีนอย่างเป็นธรรมอีกด้วย สำหรับสุนทรพจน์ของผู้นำจีนนั้นนับเป็นการตอบโต้ความกังวลของหลายฝ่ายที่มองว่า โครงการดังกล่าวเป็นเหมือนกับดักหนี้สิน และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการก้าวขึ้นสู่การเป็นชาติมหาอำนาจโลกของจีน

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสีประกาศเปิดตัวความริเริ่มสายแถบและเส้นทางครั้งแรกในปี 2013 โดยจีนได้ทุ่มงบประมาณมากถึง 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงการต่างๆ ขณะที่ธนาคารได้จัดหาเงินกู้เป็นจำนวนมากถึง 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจีนได้ร่วมลงนามกับประเทศต่างๆมากถึง 126 ประเทศ และ 29 องค์การระหว่างประเทศ