สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเจาะจงผู้นำอิหร่าน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านรอบใหม่ ระบุว่าเป็นการเจาะจงไปที่ตัวผู้นำสูงสุดของอิหร่าน สหรัฐฯ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี และทำเนียบของผู้นำสูงสุด เป็นการตอบโต้ที่อิหร่านยิงโดรนสอดแนมของสหรัฐฯตกสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทรัมป์ระบุว่าผู้นำสูงสุดของอิหร่านเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่ไม่เป็นมิตรของอิหร่าน คามาเนอีเป็นที่เคารพของคนอิหร่าน ทำเนียบของเขาควบคุมดูแลหลายหน่วยงานที่รวมถึงกองกำลังป้องกันการปฏิวัติอิสลาม มาตรการคว่ำบาตรนี้จะทำให้ผู้นำสูงสุด ทำเนียบผู้นำ และคนใกล้ชิด ไม่สามารถเข้าถึงการเงินและความสนับสนุนต่างๆได้

ด้านรัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ สตีฟ มนูชิน ระบุว่าคำสั่งใหม่นี้จะเป็นการหยุดทรัพย์สินอิหร่านมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ และเตรียมการมาตั้งแต่ก่อนที่อิหร่านจะยิงโดรนของสหรัฐฯตกในอ่าวเปอร์เซียแล้ว และก่อนการประกาศคว่ำบาตร สหรัฐฯได้มีการหารือกับชาติพันธมิตรแล้ว และจะนำเรื่องนี้ไปหารือระหว่างการประชุม จี 20 ที่ญี่ปุ่นสัปดาห์นี้ด้วย

ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน จาหวัด ซารีฟ กล่าวว่าสหรัฐฯกำลังใช้วิธีการทูตแบบเหยียดหยาม และกล่าวหาว่ารัฐบาลของทรัมป์กำลังกระหายสงคราม และเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติ มาจิ๊ด ทัคห์ท ราวานชี ตำหนิว่าสหรัฐฯไม่มีความเคารพต่อกฎหมายและความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้มีการหารือเรื่องความมั่นคงในภูมิภาค

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่านได้เพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่ที่เมื่อปีก่อนที่สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านบรรลุไว้กับชาติมหาอำนาจในปี 2015 และกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอีกครั้ง ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่ามาตรการคว่ำบาตรเป็นการป้องกันไม่ให้อิหร่านสามารถครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้ และการกดดันทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนกว่ารัฐบาลอิหร่านจะยอมยุติโครงการนิวเคลียร์

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อของสหรัฐฯรายงานข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯได้โจมตีระบบขีปนาวุธและเครือข่ายสอดแนมอิหร่านทางไซเบอร์ หลังอิหร่านยิงโดรนสอดแนมของสหรัฐฯตก รัฐบาลอิหร่านได้ปฏิเสธการโจมตีดังกล่าว แต่ระบุว่าอิหร่านกำลังเผชิญหน้ากับการก่อการร้ายทางไซเบอร์ อย่างเช่นหนอนคอมพิวเตอร์ สตั๊กซ์เน็ต และต้องเผชิญกับการถูกกระทำฝ่ายเดียวเช่นการถูกคว่ำบาตร