เรียนรู้การรับมือ สถานการณ์ระบาด ของไวรัสโคโรนา จากไต้หวัน

สถานการณ์ระบาด ในไต้หวัน เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน นับว่ายังไม่รุนแรง ที่ผ่านมา ไต้หวันพบผู้ติดเชื้อยังไม่ถึง 50 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ขณะที่มีประชากรบนเกาะไต้หวัน 23 ล้านคน ถ้าจะเทียบกันแล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังต่ำกว่าเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมาก ทั้งๆ ที่ไต้หวันเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ใกล้ชิดกับจีน ห่างกันออกไปเพียง 130 กิโลเมตรเท่านั้น และเป็นหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะบินมาได้ด้วยไฟลท์สั้นๆ

สำนักข่าวเอ็นบีซีของสหรัฐฯ ได้วิเคราะห์มาตรการรับมือ สถานการณ์ระบาด ครั้งนี้ ว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้การระบาดในไต้หวัน ไม่รุนแรงเท่าเพื่อนบ้าน

ตื่นตัวและใช้มาตรการเชิงรุก

31 ธันวาคม 2019 วันเดียวกับที่รัฐบาลจีนแจ้งองค์การอนามัยโลกเรื่องกรณีผู้ป่วยโรคปอดบวมรุนแรงหลายราย ศูนย์ควบคุมโรคของไต้หวันสั่งตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นของจีนทันที

และแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและจีนจะไม่สู้ดี แต่จีนก็ยังอนุญาตให้ไต้หวันส่งคณะทำงานเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 12 มกราคม

“เขาไม่ให้เราได้เห็นสิ่งที่เขาไม่อยากให้เราเห็น แต่ผู้เชี่ยวชาญของเรารู้สึกได้ว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี” โฆษกรัฐบาลไต้หวันกล่าวกับสำนักข่าวเอ็นบีซี

หลังคณะทำงานกลับถึงไต้หวัน รัฐบาลได้เริ่มให้โรงพยาบาลต่างๆ ตรวจสอบหาผู้ติดเชื้อ และรายงานรัฐบาล ทำให้ไต้หวันสามารถพบตัวผู้ติดเชื้อ และติดตามคนที่ติดต่อใกล้ชิด และแยกตัวทุกคนที่เกี่ยวข้องได้

มาตรการทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นก่อนที่ไต้หวันจะพบผู้ติดเชื้อครั้งแรก 21 มกราคม

จัดตั้งศูนย์บัญชาการ

20 มกราคม ไต้หวันจัดตั้งศูนย์บัญชาการเพื่อรับมือการแพร่ระบาดโดยเฉพาะ ก่อนพบผู้ติดเชื้อรายแรกเสียอีก และได้ออกมาตรการควบคุมอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงการควบคุมที่ชายแดนเข้าออก การจัดสรรงบประมาณและบุคลากร และการให้คำปรึกษาโรงเรียนต่างๆ ด้านการฆ่าเชื้อ

ตัดสินใจอย่างรวดเร็วและแน่วแน่

ไต้หวันเริ่มมาตรการตั้งแต่เนิ่นๆ 26 มกราคม เพียง 5 วันหลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรก ไต้หวันสั่งห้ามคนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น รัฐหูเป่ยของจีน หลังจากนั้น เริ่มขยายเป็นห้ามคนที่เดินทางมาจากเมืองอื่นๆ ของจีนอีกหลายเมือง และยกเว้นให้คนไต้หวันเข้าประเทศเท่านั้น

ใช้เทคโนโลยีในการค้นหาผู้ติดเชื้อและติดตาม

หลังเพิ่มความเข้มงวดชายแดน ไต้หวันใช้เทคโนโลยีในการสู้กับโรคระบาด ตั้งแต่การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่สนามบิน หรือผู้โดยสารสามารถสแกน QR โค้ด และรายงานประวัติการเดินทางและสุขภาพและอาการออนไลน์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งตรงไปยังศูนย์ควบคุมโรคระบาด

ทุกคนที่มาจากพื้นที่ที่มีการระบาด จะมีอาการหรือไม่ก็ตาม จะถูกกักกันโรคที่บ้าน 14 วัน และใช้ระบบติดตามตัวผ่านโทรศัพท์มือถือ หากหลบหนี หรือไม่รายงานอาหาร จะถูกทางการปรับโทษ

ทำให้มีอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นเพียงพอ

เพื่อให้แน่ใจว่ามีหน้ากากอนามัยในตลาดเพียงพอ รัฐบาลได้สั่งห้ามส่งออกหน้ากากอย่างรวดเร็ว และเริ่มจำกัดปริมาณการซื้อ และกำหนดราคาขาย นอกจากนี้ ยังส่งเจ้าหน้าที่ทหารไปยังโรงงานต่างๆ เพื่อช่วยเพิ่มกำลังการผลิตด้วย

หน้ากากอนามัย เป็นเครื่องมือให้ชาวไต้หวันป้องกันตัวเอง ทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัย และไม่ตื่นตระหนก

ให้ความรู้ประชาชน

รัฐบาลไต้หวันขอความร่วมมือสถานีโทรทัศน์และวิทยุ ให้ออกอากาศข้อมูลความรู้ เกี่ยวกับการแพร่ระบาด เช่นแพร่ระบาดได้อย่างไร ความสำคัญของการล้างมือที่ถูกต้อง และควรใส่หน้ากากเมื่อไหร่ โฆษกรัฐบาลระบุว่า “เราคิดว่าเมื่อข้อมูลโปร่งใส และคนมีความรู้เองการแพทย์เพียงพอ ความกลัวก็จะลดลง”

ชาวไต้หวันรับรู้ว่า คนที่มีเชื้อ ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อยมาก ดังนั้นอัตราการตายจริงๆ แล้ว อาจจะน้อยกว่าที่รายงาน และประชาชนเข้าใจว่า ประวัติการเดินทาง และการปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ เป็นตัวบ่งชี้ระดับความเสี่ยง ไม่ใช่เชื้อชาติ ซึ่งข้อมูลความเข้าใจนี้ ช่วยลดความเหยียดและแบ่งแยก

ขอความร่วมมือจากประชาชน

ความร่วมมือจากประชาชน ตามคำแนะนำของรัฐบาล นับเป็นส่วนสำคัญต่อการป้องกันการแพร่ระบาด ผู้ปกครองกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ วัดอุณหภูมิร่างกายบุตรหลาน แล้วรายงานผลให้โรงเรียนรับรู้ ก่อนเด็กจะถึงโรงเรียน เพราะไม่ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการอะไร ประชาชนก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อสุขภาพตัวเองด้วย โดยรวมๆ แล้ว อาคารสำนักงาน โรงเรียน ศูนย์กีฬา และสถานที่ชุมนุมชนเกือบจะทุกแห่ง มีเครื่องวัดอุณหภูมิ และไม่อนุญาตให้คนที่มีไข้ เข้าไปในพื้นที่

ระบบประกันสุขภาพ

ระบบประกันสุขภาพของไต้หวัน ครอบคลุมประชากรราว 99 เปอร์เซ็นต์ ทำให้คนไม่ลังเลที่จะไปโรงพยาบาล หากสงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนา ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายจากสถานพยาบาล ประชาชนสามารถรับการตรวจโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วถ้าต้องถูกแยกตัวเพื่อกักกันโรค ระหว่าง 14 วันนั้น รัฐบาลจะช่วยเหลือเรื่องอาหาร ที่พัก และยารักษาโรค