มิลาน เมืองสำคัญของอิตาลี ประกาศแผนเตรียมเปลี่ยนถนนความยาว 35 กิโลเมตรเป็น เลนจักรยาน และทางคนเดิน หลังสิ้นสุดล็อกดาวน์
มิลาน เมืองสำคัญของเขตลอมบาร์เดียในอิตาลี ประกาศแผนลดการใช้รถยนต์ เตรียมเปลี่ยนถนนความยาว 35 กิโลเมตรเป็น เลนจักรยาน และทางคนเดิน หนึ่งในมาตรการที่จะเร่งให้เกิดขึ้นหลังสิ้นสุดล็อกดาวน์ คาดว่าเป็นช่วงฤดูร้อน กลางปี
มิลาน และเมืองโดยรอบ เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่นับว่ามีมลพิษมากที่สุดในยุโรป และเป็นพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด 19) มากที่สุดในอิตาลี
ในช่วงระหว่างล็อกดาวน์ อัตราการใช้รถใช้ถนนและมลพิษทางอากาศในมิลาน ลดลงถึง 35 – 70 เปอร์เซ็นต์ ทางการจึงหวังว่าจะสามารถลดการใช้รถยนต์ได้ หลังสิ้นสุดการล็อกดาวน์ และคนต้องเริ่มกลับไปทำงาน
เลนจักรยาน ตามโครงการ จะเป็นแบบต้นทุนต่ำชั่วคราวก่อน จำกัดความเร็วที่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมด้วยทางเดินฟุตบาทที่ใหม่และกว้างกว่าเดิม
รองนายกเทศมนตรีเมืองมิลาน มาร์โค กราเนลลี กล่าวว่า ทางการได้พยายามทำงานมาเป็นปีๆ เพื่อลดการใช้รถยนต์ ถ้าทุกคนขับรถ ก็จะไม่มีพื้นที่ให้คน ไม่มีพื้นที่ให้กิจกรรมเชิงพาณิชย์นอกร้านค้า มิลานอยากจะกลับมาเปิดเศรษฐกิจ แต่ต้องทำด้วยวิธีที่แตกต่างจากเมื่อก่อน
“เราคิดว่า เราต้องนึกภาพมิลานในสถานการณ์ใหม่ เราต้องเตรียมพร้อม ดังนั้น จึงสำคัญมากที่จะปกป้อง แม้จะได้แค่บางส่วนของเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุน บาร์ และร้านอาหาร เมื่อ (วิกฤตินี้) สิ้สุดลง เมืองต่างๆ ที่ยังมีเศรษฐกิจแบบนี้ จะได้เปรียบ และมิลานก็อย่างอยู่ในกลุ่มนั้น”
มิลานเป็นเมืองที่ไม่เล็ก แต่มีความหนาแน่น มีประชากร 1.4 ล้านคน และราว 55 เปอร์เซ็นต์ใช้บริการขนส่งสาธารณะ การเดินทางโดยเฉลี่ยน้อยกว่า 4 กิโลเมตร ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมจากการใช้รถยนต์ส่วนตัวไปเป็นการเดินทางโดยวิธีอื่น
ภาพจาก Xinhuathai