svasdssvasds

เพนตากอนปล่อยภาพ "ยูเอฟโอ"

เพนตากอนปล่อยภาพ "ยูเอฟโอ"

ทางเพนตากอนปล่อยภาพบันทึกเหตุการณ์ที่ทางนักบินกองทัพเรือสหรัฐฯ พบวัตถุบินได้ที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอะไร

ยูเอฟโอ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 เม.ย.) เพนตากอนได้ปล่อยภาพวิดีโอลับ ที่นักบินกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้บันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานถึงกรณีพบวัตถุบินได้ที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอะไร ถึง 3 ครั้งด้วยกัน โดยเจ้าวัตถุบินได้นี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ “ไม่สามารถอธิบายได้ของปรากฎการณ์ทางอากาศ” ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีภาพหลุดออกไปเมื่อปี 2550 และปี 2560 โดยมีบางคนที่ดูภาพวีดิโอแล้วเชื่อว่าพวกเขากำลังดูภาพของยูเอฟโอของมนุษย์ต่างดาวอยู่

[youtube https://www.youtube.com/watch?v=auITEKd4sjA]ทางด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า "เพนตากอนตั้งใจปล่อยภาพวีดิโอดังกล่าวออกมา เพื่อที่จะเคลียร์ให้ชัดเจนว่าภาพหลุดที่เคยถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ เป็นบันทึกเหตุการณ์จริง หรือ เป็นภาพที่ถูกสร้างขึ้นมา" ซึ่งก่อนจะปล่อยภาพออกมา ทางเพนตากอน ได้พิจารณาอย่างละเอียดแล้วว่า การปล่อยภาพวิดีโอที่ถูกเก็บไว้เป็นความลับเหล่านี้ ไม่มีผลกระทบถึงความมั่นคงของกองทัพอากาศอากาศแต่อย่างใด

โดยวิดีโอทั้ง 3 แสดงสิ่งที่นักบินเห็นในระหว่างการฝึกบินในปี 2547 และ 2558 ซึ่ง 2 วิดีโอนั้นเคยถูกเผยแพร่โดยนิตยสารชื่อดังอย่างนิวยอร์กไทม์สในปี 2560 และอีกวิดีโอถูกเผยแพร่โดยกลุ่มสถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์ทูเดอะร์สตาร์ (To the Stars Academy of Arts and Science) องค์กรวิทยาศาสตร์เอกชน

วิดีโอปี 2547 แสดงเหตุการณ์ วัตถุที่บินเร็วกว่า 100 ไมล์/ชม. (ประมาณ 160 กม./ชม.) เหนือมหาสมุทรแปซิฟิก นักบินเครื่องบินรบสองนายพบวัตถุรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าโฉบอยู่เหนือน้ำ จากนั้นมันก็บินไปอย่างรวดเร็ว เดวิด เฟรเวอร์ (David Fravor) หนึ่งในนักบินระบุว่า “มันบินเร็วมาก ไม่เหมือนกับอะไรที่ฉันเคยเห็นมาก่อน”

วิดีโอปี 2558 แสดงวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วบนท้องฟ้าซึ่งหนึ่งในนั้นดูเหมือนจะหมุนอยู่ในอากาศ “ ดูสิ่งนั้นสิ!” นักบินกล่าว “ มันกำลังหมุน!”

อดีต สว.แฮรี่ รีด (Harry Reid) ออกมาทวิตถึงกรณีที่เพนตาปล่อยภาพวีดิโอออกมาว่า "ฉันดีใจที่ทางเพนตากอนปล่อยภาพบันทึกออกมาได้เสียที แต่วีดิโอที่ปล่อยออกมา มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยสำหรับวงการวิทยาศาสตร์ รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องพิจารณาอย่างจริงจังมากกว่านี้ ประชาชนชาวอเมริกันต้องรับรู้"

https://platform.twitter.com/widgets.js

ขอบคุณวีดิโอจาก The Guardian

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ The Guardian

related