svasdssvasds

เรื่องเล่าจากดำรง : หมอนวดไทยในดูไบ ครวญ สถานที่นวดบางแห่ง เป็นเหมือนนรก

เรื่องเล่าจากดำรง : หมอนวดไทยในดูไบ ครวญ สถานที่นวดบางแห่ง เป็นเหมือนนรก

ใครว่าอยู่เมืองนอกสบาย ! ดำรง พุฒตาล เล่าเรื่องราวชีวิตของหมอนวดไทยในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ จนต้องดิ้นรน หาทางกลับไทย

ท่านผู้อ่านทั้งหลาย อาจจะสงสัยว่า ทำไมเรื่องเล่าของผม มักจะมีแต่เรื่องหมอนวดไทย ขอตอบได้เลยว่า หมอนวดไทยส่วนใหญ่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างก็เป็นแฟนหนังสือคู่สร้างคู่สม และรู้สึกคุ้นเคยกับผม ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือ หรือบางคนก็เป็นแฟนรายการโทรทัศน์ของผม พวกเธอจึงมีความรู้สึกว่า เมื่อมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ คนหนึ่งที่จะสามารถรับฟังเธอได้ ก็คือตัวผมนั่นเอง

อีกอย่างหนึ่งเพราะเธอรู้จากหนังสือคู่สร้างคู่สมว่า ผมเป็นผู้แนะนำ และบุกเบิกเมืองดูไบให้คนไทยได้รู้จัก ผ่านสื่อทั้งหมดของผม ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และคู่สร้างคู่สม ในอดีต

เรื่องเล่าจากดำรง : หมอนวดไทยในดูไบ ครวญ สถานที่นวดบางแห่ง เป็นเหมือนนรก

เมื่อเร็วๆ นี้ มีหมอนวดแผนโบราณของไทย ได้เข้าไปทำงานเป็นหมอนวด และเป็นการไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีเอกสารสัญญากับนายจ้างอย่างเรียบร้อย

แต่พอไปทำได้ไม่นาน เธอก็ต้องกระเสือกกระสน ดิ้นรนหาทางกลับประเทศไทย ซึ่งกว่าจะกลับได้ก็แสนยากลำบากเธอเล่าให้ฟังด้วยน้ำตาว่า

อยากจะขอระบายถึงความเดือดร้อนในช่วงโควิดระบาด ทางร้านให้หน้ากากอนามัย ปิดจมูกหนึ่งผืน แต่ให้ใช้นานถึงห้าวัน แล้วรีไซเคิลเอามาใช้ใหม่

ในแต่ละวันต้องทำงานหนักมาก เงินเดือนประมาณ 26,000 บาท มีที่พักให้ เป็นห้องอยู่ร่วมกันแปดคน มีเตียงสองชั้น แต่มีห้องน้ำเพียงห้องเดียว ซึ่งมีรายจ่ายค่าห้องพัก ค่าไฟค่าน้ำ ค่าอินเทอร์เน็ต

เมืองดูไบอากาศร้อนแทบจะตับแตก แต่ในห้องพัก ห้ามเปิดเครื่องปรับอากาศ พาสสปอร์ตนายจ้างก็ยึดไว้

สรุปค่าใช้จ่ายมากกว่าเงินเดือนที่ได้รับ ต้องประหยัด ด้วยการกินข้าววันละหนึ่งมื้อ หนูเดือดร้อนมาก จำได้ว่าเคยอ่านคอลัมน์ดำรงตอบจดหมาย ที่คุณดำรงเตือนเรื่อง “ให้ระวังสัญญาที่ไม่เป็นธรรม”

บัดนี้ หนูได้มาเจอกับตัวเองว่า สัญญาที่เราทำมานั้น เนื้อหาส่วนใหญ่จะปกป้องและคุ้มครอง “นายทุน” หรือเจ้าของกิจการ เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบทุกอย่างในสัญญา หลายอย่างนายจ้างจะอ้างว่าเป็นคำสั่งของรัฐบาลดูไบ

เรื่องเล่าจากดำรง : หมอนวดไทยในดูไบ ครวญ สถานที่นวดบางแห่ง เป็นเหมือนนรก

ผมขอเตือนคนไทยว่า อย่าได้ไปหลงใหลกับเมืองดูไบ ที่มีตึกสูงที่สุดในโลก มีความเจริญและก้าวหน้าหรูหรา น่าไปอยู่หรือน่าไปเยือน

ผมขอบอกว่าทุกวันนี้ ค่าครองชีพ ค่าภาษี ค่าเครื่องอุปโภคบริโภคนั้นมีราคาแพงมาก ต่างกันโดยสิ้นเชิงกับสมัยที่ผมไปค้นคว้าบุกเบิกเมื่อประมาณ 40 กว่าปีมาแล้ว ตอนนั้นยังไม่มีการเรียกเก็บค่าภาษี แต่ตอนนี้จะเก็บยุบเก็บยับ

ผมจึงขอเตือนคนไทยที่จะไปประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจในเมืองนี้ ขอให้ศึกษารายละเอียดอย่างเคร่งครัด และให้สอบถามหรือคุยกับคนไทยที่อยู่ในเมืองดูไบ ถ้าจะไปเป็นหมอนวดแผนไทย ก็ควรจะคุยกับหมอนวดที่มีประสบการณ์อยู่ในเมืองดูไบนั้นเสียก่อน จะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด

ภาพโดย Engin Akyurt จาก Pixabay

ภาพโดย Nico H. จาก Pixabay

related