ฮ่องกงเพิ่มมาตรการคุมเข้ม 1 สัปดาห์ ใครไม่ใส่หน้ากากอนามัย โดนปรับหนัก

โควิด-19 วันนี้ (27 ก.ค. 63) - แม็ตธิว เฉิง (Matthew Cheung) หัวหน้าเลขานุการฮ่องกง ประกาศ มาตรการควบคุมเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคโควิด-19 โดยประชาชนที่มีความจำเป็นต้องออกจากบ้าน จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎแผนการใหม่ 4ข้อ เพื่อการต่อสู้กับการแพร่ระบาด "ระลอกที่ 3" ซึ่งมีการติดเชื้อใหม่ในพื้นที่กว่า 100 ราย ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันพุธที่ 29 ก.ค. ไปจนถึง วันอังคารที่ 4 ส.ค.

หากใครที่ไม่ปฏิบัติตามกฎอย่างเช่นการไม่สวมหน้ากาก จะถูกปรับสูงถึง 5,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 20,350 บาท) เว้นเสียแต่ว่า "จะมีความจำเป็นที่สมเหตุสมผล" เช่นเหตุผลทางการแพทย์ หรือเด็กที่มีอายุต่ำกว่าสองขวบ

นอกจากนี้ยังออกกฎห้ามรับประทานอาหารตามร้านอาหาร แต่สามารถซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านได้ การปิดสถานที่บริการสาธารณะบางอย่างที่มี "ความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาด" อาทิ สระว่ายน้ำ และสนามกีฬา รวมถึงการห้ามไม่ให้มีการรวมตัวกันเกินกว่า 2 คน จากที่ก่อนหน้านี้อนุญาตให้รวมตัวได้ไม่เกิน 4 คน

“การเสียสละความสะดวกสบายในระยะสั้น เพื่อสุขภาพในระยะยาว ทำให้ฮ่องกงเลือกที่จะใช้กลยุทธ์ “ยกระดับการป้องกัน และระงับจุดเสี่ยง” เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ ตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องลดระดับความเสี่ยงในการเข้าสังคมให้ได้มากที่สุด โดยระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้จะมีความสำคัญอย่างมาก" หัวหน้าเลขานุการฮ่องกง กล่าว

"ซึ่งครั้งนี้ ไม่ใช่การล็อคดาวน์ เนื่องจากเกรงว่า การล็อกดาวน์จะทำให้เกิดความไม่สะดวกและมีความยากลำบากมากเกินความจำเป็น การเพิ่มมาตรการคุมเข้มครั้งนี้ ดูเป็นมาตรการที่มีความ 'เหมาะสม' มากกว่า" เฉิง กล่าวเสริม

ปัจจุบันฮ่องกงรายงานยอดผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด 2,778 ราย และมีผู้เสียชีวิต 20 ราย