สถานการณ์รัฐวิคตอเรีย ออสเตรเลียดีขึ้นหลังล็อกดาวน์

โควิด-19 วันนี้ (8 ส.ค. 63) - แดเนียล แอนดรูว์ (Daniel Andrews) ผู้ว่าการรัฐวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย รายงานว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคโควิด-19 ภายในรอบวันเริ่มทรงตัวมากขึ้น สืบเนื่องมาจากมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 ส.ค.) มียอดผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ 446 ราย และเสียชีวิต 12 ราย

เบร็ตต์ ซัตตัน (Brett Sutton) หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า "เราพบว่าตัวเลขของผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ เริ่มมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น จากสัปดาห์ที่แล้ว ที่เราพบผู้ป่วยติดเชื้อใหม่อยู่ที่ราว 400-500 รายต่อวัน แต่จะสามารถป้องกันการติดเชื้อใหม่ได้ถึง 20,000 ราย"

ในเดือนพฤษภาคม ออสเตรเลียได้รับการยกย่องให้เป็นโมเดลระดับโลกในการจัดการกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยมาตรการขั้นต้นในการป้องกันไม่ให้ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจที่มีความเสี่ยงสูงเข้าประเทศ การควบคุมการเข้าสังคมที่เข้มงวด ขยายการตรวจหาเชื้อในวงกว้าง ปิดร้านอาหารและบาร์ เมื่อเกิดการแพร่ระบาดที่เพิ่มสูงขึ้น และสุดท้ายคือการปิดกั้นพรมแดน

ทว่าผู้ป่วยในรัฐวิกตอเรียกลับเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมากในสถานดูแลผู้สูงอายุและในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดที่สุดในประวัติศาสตร์ของออสเตรเลีย