svasdssvasds

สิวหัวช้าง ป้องกันได้ ไม่ใช่งานช้างอย่างที่คิด

สิวหัวช้าง ป้องกันได้ ไม่ใช่งานช้างอย่างที่คิด

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

สิวหัวช้าง เป็นสิวอักเสบชนิดหนึ่ง ซึ่งเม็ดจะใหญ่กว่าสิวโดยทั่วไป มีการสร้างสารคัดหลั่งปริมาณมากในหัวสิว เกิดการทําลายเซลล์ผิวภายในจนกลายเป็นโพรง ซึ่งในหัวสิวนั้นจะประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อที่ตายแล้วเชื้อโรคต่างๆ และมีเม็ดเลือดขาวด้วย พออักเสบขึ้นมากๆ เม็ดเลยใหญ่กว่าสิวอักเสบทั่วไป ส่วนใหญ่จะมีอาการปวด อักเสบร่วมด้วย จึงทําให้ผู้ที่เป็นสิวหัวช้างรู้สึกเจ็บปวดเวลาเป็น สิวหัวช้างมักทิ้งรอยดำหรือเป็นแผลเป็นซึ่งมันลึกมากกว่า เราจะเห็นได้จากเมื่อสิวหายหรือหัวสิวหลุดไปแล้วจะทิ้งหลุมสิวไว้ตรงตำแหน่งนั้น ฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสิวหัวช้างได้จะเป็นการดีที่สุด

ดร.ภญ.จิรวรรณ โอพรสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาเครื่องสำอางและเวชสำอางเพื่อแก้ปัญหาสิว กล่าวว่า เมื่อเราเริ่มรู้สึกเหมือนว่าสิวกำลังขึ้น มีรอยแดง และเริ่มคัน ให้รีบใช้ยาช่วย ส่วนมากจะยุบหรือหายไปเลย หากไม่ยุบก็ให้ใช้ยาอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการทำความสะอาดใบหน้าที่ถูกต้องด้วย จะช่วยลดการอักเสบลงไม่ให้รุนแรงมากเกินไป ซึ่งสาเหตุการเกิดสิวหัวช้างมันมาจากไขมันบนใบหน้า เซลล์ที่ตายแล้วซึ่งเป็นอาหารให้แบคทีเรียเจริญเติบโตในรูขุมขน ประกอบเข้ากับผิวหน้าของเราที่ไม่แข็งแรง จึงทำให้เกิดการอักเสบ บวม แดงขึ้น ดังนั้นการทำความสะอาดใบหน้าอย่างถูกวิธีจะช่วยลดการอักเสบของสิวพวกนี้ได้ หากเป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่เป็นกรดมาก เช่นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA (Salicylic acid) ซึ่งจะได้ผลดีในช่วงแรกแต่จะมีผลในการทำร้ายผิวทำให้โครงสร้างของผิวอ่อนแอ เป็นเป็นสาเหตุของการเกิดสิวต่อเนื่อง

เทคนิคการดูแลผิวหน้าให้สะอาดให้ปราศจากสิวหัวช้าง

ต้นเหตุของการเกิดสิวมีสาเหตุหลักๆ จากการที่ผิวหน้าไม่สะอาด ดังนั้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนสำหรับผิวหน้าเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งขั้นตอนการดูแลมีเทคนิคง่ายๆ 5 ขั้นตอน หากทำตามนี้ ผิวหน้าใสๆ จะห่างไกลสิวหัวช้างแน่นอน

1. ล้างหน้า เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก คราบฝุ่นละออง เหงื่อไคล และเครื่องสำอางให้สะอาด โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนเพื่อปกป้องผิวจากการระคายเคือง

2. มาสก์ผิว สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อบำรุงและดูดซับสิ่งสกปรกจากผิวให้ไม่ตกค้างในรูขุมขน เลือกสูตรมาสก์ที่อ่อนโยนเหมาะกับผิวเป็นสิวเท่านั้น

3. หลังล้างหน้าทุกครั้ง ซับหน้าให้สะอาด ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเป็นสิว สูตร non-comedogenic ที่ไม่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนอันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวต่อเนื่อง และควรปราศจาก BHAเพื่อความอ่อนโยนต่อผิวบอบบางแพ้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

4. เลือกใช้เฉพาะครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวสำหรับผู้ที่เป็นสิว แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยป้องกันการอุดตันของรูขุมขน

5. หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัด หรืออาบน้ำร้อนจัด ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สร้างการขับถ่ายให้เป็นเวลา รับประทานอาหารที่มีกากใย นอนหลับให้เพียงพอ รวมถึงการดูแลความสะอาดของใช้ส่วนตัว ระมัดระวังการสัมผัสกับสิ่งสกปรกต่างๆ แล้วมาสัมผัสใบหน้าเพื่อลดการเกิดปัญหาสิวลงได้

การดูแลผิวของเราให้แข็งแรง ต้องไม่ทำร้ายผิวจากการถูหน้าแรง แกะ เกา หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำร้ายผิว เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ล้างออกหมดจดจนหน้าแห้งแตก หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเป็นสิวที่รุนแรง ที่ทำให้หน้าแห้ง ลอก วิธีการเหล่านั้นจะช่วยให้หายทันใจแต่กลับยิ่งทำร้ายผิวระยะยาวให้ยังเป็นสิวต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อผิวเป็นสิว ให้เลือกใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์สำหรับผิวเป็นสิวที่เชื่อถือได้ ปลอดภัย ไม่มี BHA และวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง