องค์การอนามัยโลก ระบุ ร้อยละ 25 ของผู้เสียชีวิตจากโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ เป็นผลมาจากบุหรี่ และผู้หญิงสูบบุหรี่ที่ได้รับยาคุมกำเนิด เสี่ยงต่อโรคนี้มากกว่าผู้หญิงทั่วไปถึง 40 เท่า
โดยรายงานการวิจัยในสหรัฐอเมริกา พบว่า กลุ่มผู้สูบบุหรี่ จะมีโอกาสหรือความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือด มากกว่าคนไม่สูบบุหรี่ 2.4 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่สูบบุหรี่ ที่เป็นโรคความดัยโลหิตสูง หรือมีไขมันในเลือดสูง จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดถึง 1.5 เท่า รวมถึงผู้หญิงที่ได้รับยาคุมกำเนิด จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้มากกว่าสตรีทั่วไปถึงเกือบ 40 เท่าเลยทีเดียว
ซึ่งโรคหัวใจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย ส่วนใหญ่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ การสูบบุหรี่ถือเป็นสาเหตุสำคัญ ที่มีโอกาสหัวใจวายในอายุประมาณ 30-40 ปี สูงกว่าผู้ที่ไม่สูบถึง 5 เท่า โดยสารพิษในควันบุหรี่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดทั่วร่างกาย เกิดเป็นคราบเกาะภายในหลอดเลือด ทำให้รูหลอดเลือดค่อยๆ ตีบลง เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้น้อยลง เมื่อหลอดเลือดตีบ จนไม่สามารถไปเลี้ยงหัวใจได้ จะเกิดอาการจุกเสียด เจ็บหน้าอก และถึงขั้นหัวใจวายได้ในที่สุด
นอกจากนี้ ผู้ที่สูบบุหรี่ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคถุงลมโป่งพอง คือโรคที่เนื้อปอดค่อยๆ เสื่อมสมรรถภาพจากการได้รับควันบุหรี่ และโรคมะเร็งปอด ที่โดยเฉลี่ยแล้ว ร้อยละ 90 ของผู้ที่เป็นโรคนี้มาจากการสูบบุหรี่ และมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้ที่ไม่สูบ 12 เท่าเลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก สสส.