เชื่อ! "นายกฯ" ประกาศเลือกตั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

นักวิชาการวิเคราะห์ ระบุว่าการประกาศระยะเวลาการเลือกตั้งที่ชัดเจน ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นเพราะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ

[caption id="attachment_119823" align="aligncenter" width="584"] นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์ เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย[/caption]

วันที่ 12 ต.ค.60--นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์ เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย กล่าวถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน 2561 ว่า รัฐบาลดำเนินการตามโรดแมปที่เคยบอกเอาไว้ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับประเทศไทย ในการเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง พร้อมๆกับแก้ปัญหาประเทศในทุกมิติ ซึ่งเจตนารมย์ของรัฐบาลได้รับการตอบรับอย่างเห็นได้ชัดคือ กรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เชิญนายกฯเยือนสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่ธรรมเนียมปฏิบัติปกติ เพราะเป็นนายกฯที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เป็นการแสดงให้เห็นว่าได้รับการยอมรับและเชื่อถือ

พอกำหนดวันเลือกตั้ง กระแสที่ตอบรับมากที่สุดคือตลาดหุ้น วิ่งขึ้นไปสูงสุดในรอบหลายปี คือ เกิน 1,700 จุด เพราะพอกำหนดเลือกตั้งชัดเจน นักลงทุนต่างชาติ มั่นใจว่าจะมาลงทุนในประเทศไทยได้ง่าย และเมื่อตลาดหุ้นวิ่งขึ้นสูงไปอีก จากการผ่อนปรนทางการเมืองของรัฐบาล เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง หุ้นก็จะวิ่งขึ้นไปสูงกว่า 1,700 จุด นี่คือการสร้างความมั่งคั่งให้กับคนไทย และสร้างความมั่นใจในการออกมาจับจ่ายใช้สอย

นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า "รัฐบาลบอกแล้วว่าจะปลดล็อกให้ทำกิจกรรมทางการเมือง เพราะเมื่อสู่โหมดการเมืองทุกคนจะวิ่งไปสู่การรณรงค์หาเสียงเข้าไปทำความเข้าใจกับมวลชน เพราะเมื่อกิจกรรมทางการเมือง เริ่มต้น ตลอดจนเดือนพ.ย. จะมีกระบวนการหาเสียง ซึ่งกระบวนการหาเสียง มีเม็ดเงินสูงไม่ต่ำกว่า หมื่นล้านอยู่แล้ว จะเป็นการกระตุ้นบรรยากาศเศรษฐกิจ การเลือกตั้งไม่ใช่การกระตุ้นเศรษฐกิจทางตรง เพราะไม่มีการลงทุนใหม่ เป็นการกระตุ้นทางอ้อม ทำให้คนมั่นใจ ทำให้มีกระบวนการให้ใช้จ่ายเงินหมุนเวียนมากยิ่งขึ้น"