สำหรับบางคนที่แพ้ “แลคโตส” ในนมโค แต่อยากดื่มนมจะทำอย่างไร "นมถั่วเหลือง" ตอบโจทย์ได้ แต่มีประโยชน์อะไรบ้างไปดูกัน
“นมโค” แน่นอนว่าโดดเด่นเรื่อง “แคลเซียม” แต่ถ้าเป็น “นมถั่วเหลือง” จะโดดเด่นเรื่อง “โปรตีนสูง” ดื่มง่ายและหาดื่มง่ายเช่นกัน ทั้ง “นมถั่วเหลือง” แบบกล่อง หรือ “น้ำเต้าหู้” ซึ่งสามารถตอบแทนได้ สำหรับบางคนที่แพ้ “แลคโตส” ในนมโค แม้สามารถจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่คุณค่าทางโภชนาการนั้น ทดแทนได้เช่นกัน กับคุณประโยชน์ที่มากมายเลยทีเดียว
“เอสโตรเจน” ในนมถั่วเหลืองจะส่งผลให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง ยิ่งช่วงหมดประจำเดือน จะยิ่งเห็นผลชัดมากๆ เพราะ “ฮอร์โมนเอสโตรเจน” ในร่างกายจะลดลง จึงเหมาะแก่การดื่ม “นมถั่วเหลือง”
สาร “ไอโซฟลาโวน” ในนมถั่วเหลือง สามารถต้านโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะ “มะเร็งต่อมลูกหมาก” และ “มะเร็งปากมดลูก”
ลด “คอเลตเตอร์รอล” ในร่างกาย และ “ไตกรีเซอไรด์” หรือที่รู้จักในชื่อ “ไขมันหลอดเลือด” ตอบโจทย์กลุ่มผู้ป่วยที่มีระดับไขมันในร่างกายสูง หรือผู้ที่เป็น “โรคอ้วน” หรือเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน
แม้จะเด่นเรื่อง “โปรตีน” แต่ก็มี “แคลเซียม” สูงเช่นกัน แต่อาจจะไม่ได้มีปริมาณที่มากเหมือน “นมโค” ช่วยลดปริมาณการละลายแคลเซียม
“นมถั่วเหลือง” ปริมาณ 100 กรัม มีปริมาณไฟเบอร์เพียงพอเพื่อกระตุ้นการขับถ่าย เพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนตัวของกากอาหารในลำไส้
มีสาร “เลซิทิน” ที่ช่วยระบบประสาทและสมอง ช่วยเพิ่มความจำและการเรียนรู้ และยังลดไขมันในถุงน้ำดี ซึ่งเป็นต้นเหตุของ “โรคนิ่ว” นั้นเอง
ผลวิจัยในประเทศแคนาดา สามารถลดระดับน้ำตาลในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานได้จริง โดยระบุว่า “ถั่วเหลือง” คือพืชสามารถลดระดับน้ำตาลได้ดีที่สุดอีกด้วย
ระดับฮอร์โมนในร่างกายมักมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงที่สาวๆ มีประจำเดือน ไม่แปลกเลยว่าทำไม “นมถั่วเหลือง” วัยรุ่นถึงชอบดื่มมากกว่า “นมโค”
ขอบคุณภาพจาก facebook/Homemade Soymilk