GEN “มิลเลนเนียล” มักเปลี่ยนงานบ่อย หรือไม่ทนกับการทำงานที่ไม่ใช่ตัวเอง แต่ถ้าดูให้ดีก็มีเหตุผล เพราะต้องการความเป็นตัวเองสูง แต่ก็แฝงไปด้วยคนที่เผชิญกับ “โรคซึมเศร้า” มากที่สุด
การเปลี่ยนผ่านของสังคมไทย คนวัยทำงานเข้าสู่ยุค “มิลเลนเนียล” จากการสำรวจพฤติกรรมของคน 3 เจนเนอเรชั่น เมื่ออยู่ในองค์กร พบว่า GEN X (คนที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2508-2522) ยังเป็นกลุ่มคนที่มุ่งทำงาน เพื่อพัฒนาทักษะความสามารถและแสวงหาโอกาสการเติบโตในสายงานอยู่เสมอ ในขณะที่ GEN Y (คนที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2523-2540) เป็นช่วงวัยของการเริ่มต้นในหลายด้าน ทั้งชีวิตการทำงาน หรือแม้กระทั่งชีวิตครอบครัว ส่วน GEN Z (คนที่เกิดหลัง พ.ศ. 2540 ขึ้นไป) จะเป็นมนุษย์เทคโนโลยี และยังไม่ใช่กลุ่มคนที่ภักดีต่อองค์กร
จากผลสำรวจสถานการณ์ปัญหาสุขภาพจิต เมื่อปี 2556 ของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ที่ทำการสำรวจทุก 5 ปี พบว่า คนไทยที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีปัญหาสุขภาพจิตประมาณ 7 ล้านคน พบใน 5 กลุ่มโรค ประกอบด้วย กลุ่มโรคซึมเศร้า กลุ่มที่มีภาวะจิตผิดปกติ ซึ่งเรียกว่าโรคจิตเภท กลุ่มที่มีความวิตกกังวล กลุ่มที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา หรือพิการทางสมองตั้งแต่กำเนิด และกลุ่มที่มีปัญหาแทรกซ้อนจากสิ่งเสพติด เช่น แอลกอฮอล์ ยาเสพติด
เมื่อเทียบกับการสำรวจเมื่อปี 2551 พบปัญหาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่จากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคม คาดว่าแนวโน้มในอนาคตปัญหาสุขภาพจิตจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดและแอลกอฮอล์
วิธีที่จะทำให้ห่างไกลจาก “โรคซึมเศร้า”
หลักๆ คือ อย่าตั้งเป้าหมายในการทำงาน หรือตั้งความหวังไว้สูงจนเกินไป แยกแยะปัญหาใหญ่ๆ ให้เป็นส่วนย่อยๆ พร้อมจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังและลงมือทำ พยายามหากิจกรรมที่ทำร่วมกับผู้อื่น และที่สำคัญไม่ควรตำหนิหรือลงโทษตัวเอง ที่ไม่สามารถเป็นหรือทำได้ตามต้องการได้