svasdssvasds

เปิดใจ! นักเทคนิคการแพทย์ ผู้อยู่ทัพหน้ารับมือกับ COVID-19

เปิดใจ ทน.พญ. สมจิตร์ จินาภักดิ์ หัวหน้าแผนกห้องปฏิบัติการ โรงพยาบาลรามคำแหง กับการท่ามกลางวิกฤตโควิด 19 ที่ต้องเผชิญไปด้วยความเสี่ยงในทุกลมหายใจ

"เราก็รู้สึกว่าคนที่ทำงานสายสุขภาพมันอันตราย มันอันตรายมาก เพราะฉะนั้นพี่รู้สึกว่าพวกเราโดนทอดทิ้งพวกเราต้องช่วยตัวเอง PPE เราไม่มี" ส่วนหนึ่งของความรู้สึกในใจของ ทน.พญ. สมจิตร์ จินาภักดิ์ หัวหน้าแผนกห้องปฏิบัติการ โรงพยาบาลรามคำแหง ที่เผยออกมากับ ทีมข่าวสปริงนิวส์ ถึงเรื่องราวการทำงานของ นักเทคนิคการแพทย์ ท่ามกลางวิกฤตโควิด 19 ที่ต้องเผชิญไปด้วยความเสี่ยงในทุกลมหายใจ

เปิดใจ! นักเทคนิคการแพทย์ ผู้อยู่ทัพหน้ารับมือกับ COVID-19

นักเทคนิคการแพทย์ ผู้อยู่ทัพหน้าในวิกฤต COVID19

"เราเป็นวิชาชีพนึงที่เป็นคนบอกว่าคนไข้ติดหรือไม่ติดโดยที่เก็บตัวสวอป (Swabs) ที่ว่าเป็นไม้ปั่นสำลีและก็เอามาตรวจทางห้องปฏิบัติการ และก็บอกออกไปว่าเป็นหรือไม่เป็น ในระบบสาธารณะสุขส่วนใหญ่คนมักจะพูดถึงแพทย์กับพยาบาล ลืมนึกถึงว่ามันยังมีอีกหลายวิชาชีพ เราทำงานคู่กันกับแพทย์มาตลอด แพทย์ต้องทำผลการตรวจวิเคราะห์ของเราไปวินิจฉัย"

"ว่าตกลงคนไข้เขามาด้วยโรคอะไร เราอยู่ในห้องแล็ปคนไข้ไม่เคยเห็นเรา เราเป็นนักเทคนิคการแพทย์ เราช่วยเขาในด้านการพยากรณ์สุขภาพได้นะ อยากให้รู้ว่ามันยังมีวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ตรงนี้อยู่อีกหนึ่งวิชาชีพ ที่เป็นวชาชีพทางด้านสาธารณสุข วิชาชีพที่คุณมาโรงพยาบาลคุณไม่เคยเห็นเขาแต่สิ่งที่คุณได้กลับไป เขามีส่วนในการที่จะบอกในเรื่องสุขภาพคุณ"

เปิดใจ! นักเทคนิคการแพทย์ ผู้อยู่ทัพหน้ารับมือกับ COVID-19

ทุกลมหายใจ "นักรบเสื้อกาวน์" คือความเสี่ยง

"ผ่านมาเราเจอว่าคนที่บวกเป็นคนใกล้ตัวเรา เราก็รู้สึกว่าคนที่ทำงานสายสุขภาพมันอันตราย มันอันตรายมาก เพราะฉะนั้นพี่รู้สึกว่าพวกเราโดนทอดทิ้ง พวกเราโดนทอดทิ้ง พวกเราต้องช่วยตัวเอง PPE เราไม่มี เราเป็นเอกชนเรายังดีที่เราได้รับการซัพพอร์ตจากเจ้านาย แต่เพื่อนเราที่เขาต้องทำงานโดยที่ไม่มี PPE เขาอยู่ยังไง พี่มีเพื่อนที่อยู่ภาครัฐหลายคน พี่มีเพื่อนที่อยู่ยะลาที่เป็นแหล่งเชื้อโรคระบาด"

"เขาถึงขั้นต้องแบบว่าขอบริจาค PPE ขอบริจาคเงินเพื่อที่จะไปซื้อ PPE ไปสร้างห้อง PCR อย่างเนี่ย คือเราไม่รู้ว่ามันสถานการณ์นี้เป็นเพราะมันใช้เยอะหรือว่าเพราะมันไม่มีตัว PPE หรือว่าเป็นเพราะว่ามันโดนใช้ไปจนกระทั่งมันไม่พอแล้วเราอยู่บนความเสี่ยง ทุกๆ ครั้งอย่างที่เราบอกถ้าเรารู้ว่าคนที่อยู่ในสายสุขภาพติดเชื้อเรารู้สึกว่าเราเสียสละแล้ว เชื้อยังมาติดเราอีกอย่างเนี่ย"

เปิดใจ! นักเทคนิคการแพทย์ ผู้อยู่ทัพหน้ารับมือกับ COVID-19

"หยุดปกปิดข้อมูล" เพื่อผู้ทำหน้าที่ด่านหน้าสู้ COVID-19

"มีเพื่อนที่เจออยู่เคสนึงคนไข้ไม่บอกเพราะว่ากลัวหมอไม่รักษา และวันนั้นต้องคาดคั้นจนคนไข้เป็นลมทุกคนก็ไปรุมดูแลเขา โดยที่ไม่ได้ป้องกันตัวเองสุดท้ายถึงมารู้ว่าเขาเป็นโควิดเจ้าหน้าที่ทั้งหมดโดนกักตัว 14 วัน ไม่ได้กลับบ้านใช้ชีวิตยู่ในโรงพยาบาล เขาเรียกว่ามันยุติธรรมกับเขามั้ย ไม่ยุติธรรมนะเขาเสียสังคมของเขาไปเลย โดยที่คนไข้ปกปิด"

"ปิดทองหลังพระ" ท่ามกลางความเสี่ยงสูง

"ทำงานเป็นเทคนิคการแพทย์มา 30 ปี ตอนเรียนอาจารย์เขาก็จะบอกว่า เราเป็นพวกปิดทองหลังพระ เราทำงานไปเถอะ เอาผลให้หมอเขาไปวินิจฉัย เพราะฉะนั้นตัวพี่เองเวลาทำงาน พี่จะภูมิใจตัวเองมาก พี่จะบอกทุกคนว่าเราเป็นเทคนิคการแพทย์เราทำหน้าที่อะไร ญาติพี่น้องถามว่าหนูทำหน้าที่อะไร หนูเป็นนักเทคนิคการแพทย์ หนูทำงานห้องแล็ป"

"หนูตรวจเลือด หนูตรวจปัสวะ หนูตรวจอุจจาระ ถามว่าเรากลัวเชื้อโรคมั้ย เรามีวิธีป้องกันที่ดีอยู่แล้ว พี่ทำงานมา 30 ปี พี่ ไม่เคยติดเชื้อโรคจากการทำงานเพราะว่าเรารู้จักกันป้องกัน เรารู้แต่ว่าเราจะทำยังไงให้คนไข้เนี่ยได้ผลแล็ปออกไป แล้วเขาสามารถรักษาได้ถูกทางอย่างนี้ค่ะ นี่คือโจทย์ของเรา"

เปิดใจ! นักเทคนิคการแพทย์ ผู้อยู่ทัพหน้ารับมือกับ COVID-19

"น้อยใจแต่ไม่ท้อ" แม้บางครั้งจะถูกลืม

"คือความเหนื่อยมันเหนื่อยด้วยกันทุกคนทั้งคุณหมอทั้งพยาบาล ตัวเทคนิคเองก็เหนื่อย แต่บางครั้งเวลาคนเอาอะไรมาแจก เขาก็บอกว่าขอให้คุณ ขอปรบมือให้คุณหมอและพยาบาล แต่ไม่มีคำว่าเทคนิคการแพทย์ออกมา มันก็มีเหมือนกันว่าฉันก็อยู่ตรงนี้นะ พี่จะบอกน้องๆ จะเล่าจะใช้วิธีเล่าว่าน้อยใจๆ ได้แต่หนูต้องรู้นะว่าเวลาคนไข้เขาได้ผลจากเราไปแล้วเขาดีใจ

"เขารอคอยผลจากเรา อันนั้นต่างหากที่มันเป็นของขวัญของเรา เมื่อไหร่ที่โรงพยาบาล SMS ไปบอกเขาว่าเขาไม่พบเชื้อเขาขอบคุณ เขาขอบคุณจนเราฟังแล้วเรายังรู้สึกขนลุก พี่ก็มาเล่าให้น้องฟังตลอด หนูนี่คือคนที่ทำให้คนเหมือนตายแล้วเกิดใหม่เพราะฉะนั้นเราทำไปเถอะ สักวันเขาต้องรู้จักเราว่าเราคือเทคนิคการแพทย์ เราคือคนที่ทำให้คนมีความสุข"

เปิดใจ! นักเทคนิคการแพทย์ ผู้อยู่ทัพหน้ารับมือกับ COVID-19

"ความเสียสละ" คือจิตวิญญาณของนักรบเสื้อกาวน์

"คิดว่าคนที่เลือกงานในสาธารณสุข เขามีส่วนนึงคือเขาเป็นคนจิตใจดี จิตใจที่อยากรักษาคนให้หายป่วย เพราะฉะนั้นสิ่งนึงที่เขามีอยู่ในตัวเขาเสียสละ เป็นคนที่มีความเสียสละ เสาร์อาทิตย์ไม่มี วันธรรมดาไม่มีต้องอยู่เวร เช้า บ่าย ดึก เย็น ไม่ได้ไปเที่ยวในวันนักขัตฤกษ์หรืออะไรก็แล้วแต่"

"นั่นหมายถึงเขายอมเสียสละ ในวิชาชีพเขาแล้วเราไม่เคยเหนื่อย แต่ว่าเรายากทำในสิ่งที่เรามองว่าเรามีประโยชน์กับประชาชน พี่เข้าใจว่าทุกๆ คนที่เรียนสายการแพทย์หรือเรื่องตรงนี้คือต้องการช่วยเหลือคนประชาชน เพราะฉะนั้นก็เหมือนเราเลือกแล้วล่ะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น"

เปิดใจ! นักเทคนิคการแพทย์ ผู้อยู่ทัพหน้ารับมือกับ COVID-19

หยุดแนวคิดรังเกียจ "ผู้ติดเชื้อ-ผู้เสียชีวิต"

"พี่ได้ดูข่าวพี่ก็ยังคิดในใจว่ามันก็ดีนะที่เขามีแหล่งให้คนที่เรารู้ว่าติดเชื้ออยู่ในที่ๆ เขาจะอยู่ไม่ไปแพร่กระจาย แล้วการแพร่กระจายมันก็ไม่ได้แพร่กระจาย มันต้องกระเด็นใส่เรา แล้วตัวโรงพยาบาลเองเขาก็มีวิธีการทำความสะอาดในเรื่องของการดูแลไม่ให้คนไข้กลุ่มเหล่านี้แพร่กระจายออกมา เพราะฉะนั้นอย่าไปทำเลยค่ะ เพราะเห็นเราก็รู้สึกเสียใจแทนคนที่อยู่ในโรงพยาบาลเหมือนกัน ทำไมเขาถึงกลายเป็นคนที่ถูกรังเกียจ"

เปิดใจ! นักเทคนิคการแพทย์ ผู้อยู่ทัพหน้ารับมือกับ COVID-19

"เหมือนกับคนอยู่ในบ้านด้วยกันค่ะ ถ้าเราอยู่ในห้องเราและเราไม่ออกไปข้างนอกไม่ทานข้าวร่วมกัน ไม่ใช้ช้อนไม่ใช้แก้วน้ำหรืออะไรร่วมกันก็ไม่ติด ต้องเปลี่ยนความคิด เชื้อมันตายง่าย อย่างที่เขาเคยบอกตายในอากาศร้อนๆ ถ้าไปเผาศพด้วยความร้อนขนาดนั้น เชื้อไม่แพร่กระจายอยู่แล้ว กับอีกอันนึงคือเขาฉีดฟอร์มาลีนมันจะตายง่ายอยู่ได้ไม่นาน ยังไงถ้าเป็นศพมันก็ไม่แพร่กระจายเชื้ออยู่แล้วและโรงพยาบาลก็จะมีวิธีการแพ็คของเขาอยู่แล้วถ้าเกิดเป็นคนไข้กลุ่มคนที่เป็นโรคติดต่อเขาจะมีวิธีการแพ็คที่ดีที่ไม่ให้เกิดการแพร่กระจาย"

เปิดใจ! นักเทคนิคการแพทย์ ผู้อยู่ทัพหน้ารับมือกับ COVID-19

จากใจถึงประชาชน

"ถ้าท่านสุขภาพดี ประชาชนสุขภาพดีพวกเราก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตปกติ ตอนนี้พวกเราใช้ชีวิตไม่ปกติเพราะเราแทบจะกินนอนอยู่ในโรงพยาบาลแล้วเพราะฉะนั้นก็อยากให้กำลังใจประชาชนว่าขอให้ท่านมีสุขภาพที่ดีเราจะได้ใช้ชีวิตปกติในอนาคตอันใกล้นี้"

 

 

related