รองโฆษกตร. ย้ำต้องประชาสัมพันธ์ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มทำผิด

วันนี้ (19 กันยายน 2563) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวถึงกรณีที่ผู้ชุมนุมตัดกุญแจ และพังประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยที่เจ้าของสถานที่ไม่อนุญาต ว่า การกระทำดังกล่าวถือว่ามีความผิดฐานบุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งการจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดนั้น แบ่งเป็น 2 กรณี การบุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งทรัพย์นั้นมีเจ้าของต้องรอให้เจ้าของสถานที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน หากเป็นการกระทำผิดส่วนอาญาต่อรัฐ เป็นหน้าที่ของตำรวจท้องที่เตรียมหลักฐานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้เลย ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าของสถานที่ยังไม่ได้มาดำเนินการร้องทุกข์ ทั้งนี้ตำรวจไม่ได้ร้อนตัวที่จะเอาผิดกับกลุ่มผู้ชุมนุม การทำงานวันนี้หลักการคือมารักษาความสงบเรียบร้อย ส่วนที่ตำรวจออกมาประชาสัมพันธ์เป็นระยะๆ เพราะพวกท่านเริ่มกระทำความผิดแล้ว จึงขอเตือนว่าอะไรที่ทำแล้วไปกระทบสิทธิของผู้อื่น เมื่อมีการมาร้องทุกข์กล่าวโทษทีหลังต้องรับสภาพ

พันตำรวจเอกกฤษณะ กล่าวอีกว่า จากการประเมินตัวเลขผู้ชุมน่าจะประมาณ 1,000 คน โดยคำนวณจากพื้นที่ที่ผู้ชุมนุมเข้าไปอยู่ และสภาพดินฟ้าอากาศ ส่วนกรณีที่ผู้ชุมนุมจะทำการเคลื่อนพลในลักษณะดาวกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ ตำรวจมีการข่าวอยู่แล้ว

ส่วนกรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวภาพชายชุดดำอยู่ใกล้กับพื้นที่การชุมนุมนั้นพันตำรวจเอกกฤษณะ กล่าวว่า จากการตรวจสอบยืนยันว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้มีการส่งตำรวจไปอยู่ในจุดสูงข่ม ส่วนจะเป็นใครต้องตรวจสอบอีกครั้ง และอยากจะตั้งคำถามกลับไปว่า เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมเองหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่แน่นอน

เมื่อถามว่ากรณีผู้ชุมนุมชูป้ายในลักษณะสุ่มเสี่ยงเข้าข่ายความผิดใด พันตำรวจเอกกฤษณะ กล่าวว่า ต้องไปดูองค์ประกอบการกระทำผิด ยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจน ซึ่งตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานไว้ เพื่อพิจารณาเอาผิดต่อไป

ถามต่อว่าตำรวจมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ชุมนุมหรือไม่ พันตำรวจเอกกฤษณะ กล่าวว่า ไม่มีการตัดสัญญาณแต่อย่างใด ยกเว้นกรณีมีเหตุสุ่มเสี่ยง หรือพบวัตถุต้องสงสัย ทุกอย่างเป็นขั้นตอนในการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม

ขณะที่ทางพลตำรวจตรีปิยะ กล่าวว่า กองบัญชาตำรวจนครบาล(บช.น.) ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่มาชุมนุมบริเวณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ห้ามมิให้มีการชุมนุมในระยะ 150 เมตร จากพระบรมมหาราชวัง เขตพระราชฐาน วัง หรือที่ประทับ จะกระทำการชุมนุมไม่ได้ ซึ่งถ้าดูตามแผนที่จากโดยรอบมธ.ซึ่งเป็นที่ชุมนุมหากวัดระยะทาง 150 เมตรผ่านหน้าวัดมหาธาตุไปจะต้องไม่เกินตรอกพระยาเพชร จากท่ามหาราชด้านเลียบริมแม่น้ำก็ไม่เกินตรอกพระยาเพชรด้วยเช่นกัน และถ้าหากมองจากสนามหลวง เลียบวัดมหาธาตุ ผ่านส่วนหนึ่งของสนามหลวง จนมาถึงถนนราชดำเนินใน แถวกรมอัยการเก่า บริเวณคือสถานที่ในระยะ150 เมตรจากเขตพระราชฐาน ที่ห้ามมิให้มีการชุมนุมโดยเด็ดขาด

 2. ทางบช.น.ได้มีคำสั่งที่ 376/2563 ห้ามมิให้มีการชุมนุมในระยะห้าสิบเมตรจากพื้นที่ที่สำคัญ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 7 วรรคท้าย ของพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ได้ประกาศที่สำคัญที่ห้ามชุมนุมระยะ 50 เมตร 2 สถานที่คือ ศาลฎีกา และบริเวณทำเนียบรัฐบาล 3. บช.น.มีความห่วงใยประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้สนามหลวง ใกล้มธ. หรือมีธุระจะผ่านไปในบริเวณใกล้เคียงนั้นทาง บช.น.มีข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรปิดถนนบริเวณใกล้เคียง มธ.ได้ดำเนินการปิดการจราจร จำนวน 5 จุด โดยรอบสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง ดังนี้ 1.แยกพระอาทิตย์ ถนนราชินี ตั้งแต่ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถนนราชดำเนินใน 2.แยกผ่านพิภพ ถนนราชดำเนินใน ถนนหน้าพระธาตุ ถนนพระจันทร์ ถนนหน้าพระลาน 3.สะพานช้างโรงสี ถนนกัลยาณไมตรีเชื่อมต่อถนนสนามไชย 4.วงเวียน นรด. ถนนท้ายวัง เชื่อมถนนมหาราช และ5.แยกท่าเตียน โดยจะทำการปิดการจราจร ตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป ทั้งนี้ในขณะนี้สะพานพระปิ่นเกล้ายังสามารถใช้งานได้แต่การเคลื่อนตัวช้าลง

พลตำรวจตรีปิยะ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่สนามหลวงเป็นโบราณสถาน ตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน ซึ่งอนุญาตให้ประชาชน เข้ามาใช้พื้นที่ออกกำลังกายตามประกาศที่ กทม. กำหนด ในช่วงเวลา 05.00-22.00 น. โดยกิจกรรมที่สามารถทำได้คือ งานพระราชพิธี งานประเพณีสำคัญของชาติที่จัดโดยหน่วยงานของรัฐ งานแข่งกีฬาประจำปี การจัดงานตามเงื่อนไขที่กรุงเทพมหานครกำหนด

ทั้งนี้การใช้กำลังตำรวจรักษาความปลอดภัยทั้งภายในและโดยรอบ มธ. เจ้าของสถานที่ได้ประสานงานกับกองบังคับการตำรวจนครบาล6(บก.น.6) อย่างใกล้ชิด มีกำลังตำรวจ 12 กองร้อย ในบริเวณดังกล่าว และพื้นที่ใกล้เคียง และสับเปลี่ยนกำลังเป็น 3 ผลัด ในการดูแลความปลอดภัย และมีตำรวจจราจรคอยดูการจราจรไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน

นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงกรณีภาพชุดควบคุมฝูงชน ที่มีทั้งโล่และกระบอง นั้น ภาพที่ออกไปเป็นการฝึกซ้อมปกติตามวงรอบ ให้ตำรวจมีความพร้อม มีความอดทน และเข้าใจข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ตำรวจมาแต่ตัวกับหัวใจ ไม่มีทั้งโล่ และกระบอง

 ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พลตำรวจตรีปิยะ กล่าวว่า อาจเป็นการนำอุปกรณ์มาเก็บรักษา หรือการขนย้ายตามวงรอบปกติ ซึ่งทางพันตำรวจเอกกฤษณะ  ชี้แจงว่า เป็นการนำมา เพื่อรักษาความสงบในการชุมนุม