svasdssvasds

รวบแล้ว “โจรไซเบอร์” หลอกเป็นแอดมินให้โอนเงินผ่านกลาง สุดท้ายชิ่งหาย

รวบแล้ว “โจรไซเบอร์” หลอกเป็นแอดมินให้โอนเงินผ่านกลาง สุดท้ายชิ่งหาย

“บิ๊กปั๊ด”สั่งชุดสืบสวน ศปอส.ตร.บุกรวบตัวโจรไซเบอร์หลอกโอนเงิน พบก่อเหตุ 7 สน.รวด เร่งขยายผล

วันที่ 25 พ.ย.2563 เวลา 20 .00 น. ที่ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่ น.ส.ณัฐชมนต์ ธิติมงคลไพศาล เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบ ศปอส.ตร. เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 63 ชุดรับแจ้งและสอบสวนชุดที 1  พนักงานสอบสวนได้ทํา การรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดี สอบสวนปากคําผู้เสียหาย และประสานชุดสืบสวน ฝศปอส.ตร.ส่งมอบคดีต่อไปยังท้องที่เกิดเหตุสน.ตลิ่งชันตามหนังสือ ศปอส.ตร.ที่ 0066/2034 ลงวันที่ 24 ก.ย.2573 นั้น

“โจรไซเบอร์” อ้างเป็นแอดมิน กลุ่มซื้อขายสินค้า หลอกเหยื่อโอนเงิน ซื้อขาย กว่า 20 ราย เสียหายรวมเกือบครึ่งล้าน

 

ต่อมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.)ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน  ศปอส.ตร.เร่งสืบสวนสอบสวน ติดตามตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ซึ่งจากการสอบสวนสืบสวน  จนทราบว่า คนร้ายในคดีนี้คือ นายสมชาย(นามสมมุติ) ซึ่ง ได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ ในท้องที่ สน.พญาไท โดยพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้มีการรับคํา ร้องทุกข์ และมีการอออกหมายจับ ซึ่งปัจจุบันฝ่ายสืบสวนของ ศปอส.ตร. แจ้งว่าได้รับข้อมูลจาก ผู้เสียหายในคดีว่าผู้ต้องหา มีพฤติการณ์ในการปลอมเป็นแอดมินเพจ และหลอกผู้เสียหายอื่นๆ ใน ลักษณะเดียวกันนี้ อีกหลายท้องที่ ซึ่งผู้เสียหายบางรายเคยเห็นหน้าคนร้าย และมีการดูภาพถ่าย ภายหลัง โดยผู้เสียหายหลายคนเห็นภาพใบหน้า และมีการยืนยันว่าเป็นคนร้าย ซึ่งชุดสืบสวน ศปอส.ตร.ได้มีการสืบสวนและประสานกับพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชันเพื่อเร่งรัดในการดําเนินคดี 

ล่าสุด พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ชุด สืบสวน  ศปอส.ตร.ได้จับกุมตัวผู้ต้องหา นายสมชาย(นามสมมุติ)อายุ  19 ปีตามหมายจับ ของศาลแขวงดุสิตที่ จ.247/2563 ลงวันที่ 18 กันยายน 2563 ตามความผิดฐาน ฉ้อโกง ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ถนนประชาราษฎร์สายหนึ่ง แขวงบางซื่อเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร นำตัวส่งพ.ต.ท. บารมี วงษ์อินตา 
พนักงานสอบสวน สน. พญาไท ข้อหาคดีฉ้อโกง 

โดย นายสมชาย(นามสมมุติ)  ได้ สารภาพว่า ได้อ่านข่าวพบว่ามีผู้เสียหายหลายรายถูกหลอกจากการซื้อสินค้าออนไลน์  ต่อมามีปัญหาด้านการเงิน จึงได้ลองทำการหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นบ้างโดยได้เข้าไปอยู่ในกลุ่ม Facebook ที่มีการขายสินค้ากระเป๋าแบรนด์เนม หรือนาฬิการาคาแพงต่างๆ  เมื่อพบเป้าหมายประกาศขายสินค้า ก็จะ Inbox ติดต่อซื้อสินค้าจากผู้ขายนั้น เมื่อตกลงซื้อขายแล้ว ได้ใช้อุบาย อ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ให้ทำการซื้อขายผ่านแอดมินของกลุ่ม Facebook นี้ หากผู้ขายตกลง ก็จะให้ QR Code แจ้งว่าเป็น Line ของแอดมินกลุ่ม 
ผู้ขายสินค้า ก็จะ Add Line ไปตาม QR Code นั้น โดยคิดว่าเป็นแอดมินของกลุ่ม ในส่วนของผู้ต้องหา QR Code ที่ให้ไปนั้น เป็นของผู้ต้องหาเอง  ก็จะปลอมตัวเป็นเป็นแอดมินกลุ่มดังกล่าว
เมื่อเจรจากับผู้ขายสินค้านั้น ก็จะอ้างว่าเพื่อความมั่นใจ ว่าผู้ขายจะส่งสินค้าให้ผู้ซื้อแน่นอน ไม่ขายให้รายอื่น ขอให้ผู้ขายวางเงินมัดจำ ไว้ที่แอดมินกลุ่ม ในอัตรา 40 % ของราคาสินค้า โดยเมื่อผู้ขายหลงเชื่อ ได้โอนเงินดังกล่าวไปยังบัญชีที่ผู้ต้องหาให้ไว้  ผู้ต้องหาก็จะลบบัญชี Facebook  Line หลบหนีไป 

ในคดีนี้ มีผู้เสียหาย แจ้งความดำเนินคดีแล้ว 7 สน. พงส.รับคำร้องทุกข์ไว้ในคดีความผิด "ฉ้อโกง" ตาม ป.อาญา ม.341  แต่จากพฤติการณ์การกระทำผิด นั้น เป็นการกระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ตาม ป.อาญา ม.342(1) ซึ่งเป็นบทหนัก จะได้ประสาน พงส. ผู้รับผิดชอบเพื่อสืบสวนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด มานำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

related