สมพงษ์ ยัน หญิงอ้อ ไม่ยุ่งเกี่ยวพรรค ส่วนสมาชิกไปพบปะเป็นเรื่องส่วนตัว

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  กล่าวถึง การทำงานหลังจากรับตำแหน่งหัวหน้าครั้งที่ 2 ว่า หลังจากนี้จะมีการประชุมเพื่อหาแนวทางการทำงานของพรรคโดยขณะนี้ได้เชิญผู้ที่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากบุคลากรด้านเศรษฐกิจของพรรคที่มีอยู่เพื่อให้ได้ความรอบรู้ที่กว้างขึ้น เมื่อประชุมเสร็จแล้วก็จะวางแนวทางของพรรค ว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไรทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม อีกทั้งต้องรวมทุกภาคส่วนให้มาช่วยกัน รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วยเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่ง ส.ส. จะต้องหาข้อมูลในภาคส่วนประชาชนและมาประเมินว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อเพื่อให้พรรคเดินทางไปในเส้นทางที่ถูกต้อง

ส่วนการดึงคะแนนนิยมให้ประชาชนกลับมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ตนมองว่า ประชาชนก็ยังสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่โดยตลอด และก็ไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องทำให้หนักแน่นขึ้นเพื่อให้คำว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ในใจของประชาชนได้ยืดยาวและมั่นคงยิ่งขึ้น

สำหรับการทำนโยบายพรรคนั้น ก็จะเน้นการผสมผสานคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ นำนโยบาย มาบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้พรรคเพื่อไทยกลับมาให้ยิ่งใหญ่เหมือนเดิม พร้อมยืนยันว่ากรรมการชุดใหม่นี้เป็นตัวจริงทุกคนโดยก่อนหน้านี้เคยคิดจะปรับโครงสร้างพรรคอยู่แล้ว แต่เนื่องด้วยตนเองเป็นผู้นำฝ่ายค้านจึงต้องรอเวลาให้ปิดสมัยประชุมก่อน และในช่วงเวลานี้จึงเหมาะสมที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรครวมทั้งเรื่องกับปรับเปลี่ยนโลโก้ด้วย 

พร้อมกันนี้ นายสมพงษ์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่อดีตภริยาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ จะเข้ามาช่วยงานของพรรค ว่า คุณหญิงพจมาน ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับพรรค แต่มีบ้างที่สมาชิกบางคนอาจจะไปพบปะพูดคุยเป็นการส่วนตัว ข่าวที่ออกมาเป็นเพียงแค่ข่าวลือ และขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าคนในตระกูลชินวัตรจะเข้ามาช่วยเหลืองาน 

ส่วนอดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จะได้รับตำแหน่งอะไรในพรรคอีกหรือไม่นั้น ขณะนี้คุณหญิงสุดารัตน์ ยังคงเป็นสมาชิกพรรคอยู่ และเป็นประธานกรรมการสรรหาของผู้ว่า กทม. เพียงแต่ได้ลาออกจากประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เท่านั้น

ส่วนเรื่องของการชุมนุมพรรคเพื่อไทยก็ได้มีการติดตามอยู่ไม่ได้ขัดข้องอะไรและไม่ได้ให้การสนับสนุนโดยตรงเพียงสังเกตการณ์และปฏิบัติตัวไปในแนวทางที่ถูกที่ควร

เลขาฯ เพื่อไทย ชี้ เปลี่ยนโครงสร้างพรรคใหม่เน้นกระจายอำนาจแบ่งภารกิจชัดเจน เผยเตรียมเร่งนัดประชุม กก.บห.ชุดใหม่เร็วๆนี้  ยันกระแส "หญิงอ้อ" คุมทัพไม่จริง

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังจากเข้ารับตำแหน่งในทันที ว่า การตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ นับเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของพรรค จะเน้นการกระจายอำนาจและการแบ่งภารกิจอย่างชัดเจน ซึ่งกรรมการบริหารพรรคจะบริหารงานโดยมีพรรคเป็นศูนย์กลางในการกระจายงาน
ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค เพราะสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันอยู่ในวิกฤต จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่เปลี่ยนไป อีกทั้งเศรษฐกิจของประเทศมีปัญหา รัฐบาลขาดความเชื่อมั่นจากในและนอกประเทศ ส่วนวิกฤตทางการเมือง คือประเทศไทยไม่ใช่ประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ พรรคเพื่อไทยมีภารกิจอันเร่งด่วน คือ

1. การเร่งให้เกิดการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อวางกรอบนโยบายในการทำงานเรื่องต่าง ๆ

2. การผลักดันและสร้างนโยบายของพรรคให้ตรงกับความต้องการของประชาชน โดยการระดมบุคลากรทั้งภายในพรรคและนอกพรรค มาร่วมทำนโยบายให้ตรงกับประชาชน แบ่งส่วนการทำงานแบบกระจายอำนาจและให้ความสำคัญกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พร้อมนำคนรุ่นใหม่และรุ่นเก่ามาสร้างมิติใหม่ทางการเมืองให้กับประชาชน  

3. การนำคนรุ่นใหม่มาร่วมงาน

4. การยืนหยัดให้เป็นประชาธิปไตยแบบสมบูรณ์

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการชุดใหม่จะเริ่มมีการทำงาน และพูดคุยภายในเดือนนี้ รวมถึงผลักดันอุดมการของพรรคเพื่อไทย เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยคิดว่ามีประโยชน์ และจะนำมาเป็นนโยบาย จึงไม่มีความน่าเป็นห่วง เราจะทำงานทั้งในและนอกสภาฯ รวมถึงทำงานหลายส่วนในอนาคต

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะร่วมพูดคุยกับฝ่ายรัฐบาลในการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนรับหลักการหรือไม่ว่า ส่วนตัวขอยืนยันว่าฝ่ายค้านจะไม่ขอร่วมในการพูดคุยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญกับรัฐบาล เหมือนกับเป็นการซื้อเวลาหนึ่งเดือน และรัฐบาลไม่แสดงความจริงใจในการที่จะขอแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้

ส่วนกรณีที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ปฎิเสธการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในนามตัวแทนอิสระ เพื่อกลับไปทำงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยนั้น นายประเสริฐ ระบุว่า นายชัชชาติ ได้ปฏิเสธอย่างชัดเจนและเราต้องเคารพการตัดสินใจ รวมถึงกระแสข่าว อดีตภริยา นายทักษิณ ชินวัตร คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ จะเข้ามาบริหารพรรคเพื่อไทยนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องจริงเพราะคุณหญิงพจมาน เป็นผู้ใหญ่ที่พรรคฯ ให้ความเคารพนับถือ แต่ท่านไม่เคยเข้ามายุ่งการบริหารภายในพรรค รวมถึง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ยังเป็นสมาชิกของพรรค ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการวางกรอบการทำงาน ซึ่งจะมีการพูดคุยกัน