svasdssvasds

ซึมยาว ! ท่องเที่ยวโลก ปี 2563 คาด หดตัวกว่า 77 % ฟื้นตัวปี 2567

ซึมยาว ! ท่องเที่ยวโลก ปี 2563  คาด หดตัวกว่า 77 % ฟื้นตัวปี 2567

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยข้อมูลการท่องเที่ยวโลก ในปีนี้ คาด หดตัว 77.7 % และจะอยู่ในภาวะซบเซา จนถึงปี 2567

ข้อมูลสถานการณ์การท่องเที่ยวโลกของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า จากข้อมูลล่าสุดของ องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ UNWTO พบว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั่วโลกมีจำนวนเพียง 233 ล้านคน หรือหดตัวลงกว่า 65%

และในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. 63 นักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกเหลือเพียง 18 ล้านคน หดตัวกว่า 95% เนื่องจากการปิดน่านฟ้าและพรมแดนระหว่างประเทศในหลายประเทศ

สำหรับทิศทางการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกในช่วงที่เหลือของปี 2563 ต่อเนื่องจนถึงครึ่งแรกของปี 2564 ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศยังไม่ดีขึ้น

และแม้ว่าขณะนี้หลายประเทศจะได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติ และมีหลายประเทศที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อช่วยให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก

โดย ณ วันที่ 1 กันยายน 2563 ประเทศที่มีการผ่อนปรนมาตรการการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศมีประมาณ 115 ประเทศและเขตปกครองพิเศษ ส่วนใหญ่เป็นประเทศในภูมิภาคยุโรป

อย่างไรก็ดี การผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศยังเป็นการเปิดแบบมีเงื่อนไข เช่น การกำหนดประเทศต้นทางและการกักตัวในสถานที่พักเป็นเวลา 7-14 วัน ขณะที่บางประเทศที่มีการทำสัญญาการท่องเที่ยวกับเฉพาะบางประเทศที่มีการจัดการบริหารโรคได้ดีสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว แต่ก็ยังต้องปฏิบัติตามตามเงื่อนไขอื่นๆ

ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศยังมีจำนวนน้อย เช่น นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวที่สเปนในเดือนก.ค. 63 มีจำนวน 2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย. 63 ที่มีจำนวน 1.3 แสนคน แต่เนื่องจากสเปนมีการพบการติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้น อาจส่งผลต่อความต่อเนื่องในการฟื้นตัว

นอกจากนี้ มาตรการผ่อนปรนต่างๆ ยังมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์การระบาดของโรคในประเทศต่างๆ โดยที่ผ่านมา สหราชอาณาจักร มีการยกเลิกมาตรการไม่ต้องกักตัวสำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากสเปน ฝรั่งเศส และเบลเยี่ยม เป็นต้น

ขณะที่ประเทศที่เคยมีการทำ Travel Bubble ไปก่อนหน้า เช่น ในกลุ่มประเทศ Baltic ระหว่างประเทศลัตเวีย-ลิทัวเนีย-เอสโตเนีย โดยลัตเวียได้ปรับกฎเกณฑ์สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากเอสโตเนีย ต้องมีการกักตัว 14 วัน เนื่องจากพบว่าเอสโตเนียมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูง

จากสถานการณ์ดังกล่าว คาดว่าการท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั่วโลกในปี 2563 น่าจะหดตัวประมาณ 77.7% จากปีก่อน หรือมีจำนวนเพียงประมาณ 324 ล้านคน จาก 1.45 พันล้านคนในปี 2562

ขณะที่รายได้การท่องเที่ยวโลกคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 320,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 1.48  ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2562 โดยการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศส่วนใหญ่น่าจะเป็นการเดินทางระหว่างประเทศในภูมิภาคยุโรป ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศมากที่สุด

ขณะที่ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งเป็นตลาดท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่มีขนาดใหญ่อันดับสองรองจากภูมิภาคยุโรป และในช่วงปลายปีของทุกปี ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกจะเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากหลายๆ ประเทศ

แม้หลายประเทศในภูมิภาค เช่น ไทย จีน นิวซีแลนด์ จะสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดี แต่ประเทศเหล่านี้ยังคงมีความระมัดระวังในการเปิดรับชาวต่างชาติ ทำให้กิจกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้น่าจะยังจำกัดอยู่มาก

ทิศทางการท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั่วโลกการฟื้นตัวในระดับที่เข้าสู่ภาวะก่อนการระบาดของโควิด-19 น่าจะเกิดขึ้นได้ในปี 2567 สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนกลับมายังทิศทางการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดโลก โดยทางการไทยยังระมัดระวังในการผ่อนคลายมาตรการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ

ซึ่งหากมองไปข้างหน้ากลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะฟื้นตัวก่อนจะเป็นเดินทางเพื่อการพักผ่อนในกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับกลาง-บน เนื่องจากการเดินทางในช่วงนี้มีค่าใช้จ่ายที่สูง สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป และกลุ่มไมซ์อาจจะยังต้องใช้เวลาอีกสักพัก

related