svasdssvasds

เปิดข้อสรุป อภิปรายแก้ปัญหาม็อบ ผ่าทางตันประเทศ

เปิดข้อสรุป อภิปรายแก้ปัญหาม็อบ ผ่าทางตันประเทศ

ที่ประชุม 4 ฝ่าย ได้ข้อสรุปกำหนดเวลา 23 ชั่วโมง อภิปรายแก้ปัญหาการชุมนุม ฝ่ายค้านกังวล แตะเรื่องสถาบันผิดข้อบังคับ

เปิดข้อสรุป อภิปรายแก้ปัญหาม็อบ ผ่าทางตันประเทศ

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่าที่ประชุมทั้ง 4 ฝ่าย คือ คณะรัฐมนตรี วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และ วิปวุฒิสภา ได้ตกลงกรอบเวลาในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 165 ตามที่รัฐบาลเสนอญัตติเพื่อให้สภาหาทางออกร่วมกันของ สถานการณ์การชุมนุมขณะนี้ว่า เบื้องต้นได้กำหนดเวลาการอภิปรายไว้ประมาณ 23 ชั่วโมงแบ่งเป็นฝ่ายค้าน 8 ชั่วโมง รัฐบาล 5 ชั่วโมง ส..พรรคร่วมรัฐบาล 5 ชั่วโมง และ ส.. 5 ชั่วโม'

ขณะเดียวกันได้เผื่อเวลาให้ประธานรัฐสภาหนึ่งถึง 2ชั่วโมง โดยการประชุมจะเริ่มในวันที่ 26 ตุลาคมในเวลา 09:00 . ไปจนถึงเวลา 22:00 . ส่วนวันที่ 27 ตุลาคมจะเริ่มในเวลา 09:00 . เช่นกัน โดยหวังว่าการเปิดประชุมสมัยวิสามัญครั้งนี้จะสามารถร่วมกันหาทางออกให้กับสถานการณ์ขณะนี้

ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าการเปิดประชุมสมัยวิสามัญจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลยเนื่องจากไม่ได้มีการลงมติ และไม่มีการโหวตรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายวิรัตน์ มองว่าอย่าถือเป็นประเด็นเพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นไปตามเงื่อนไขเวลา

 

ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ยอมรับว่ามีความกังวลเรื่องเนื้อหาเพราะ 1 ในข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม คือเรื่องการปฏิรูปสถาบัน หากมีการหยิบยกเรื่องสถาบันเข้ามาหารือในที่ประชุมรัฐสภา รวมถึงเรื่องขบวนเสด็จเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม

จะขัดข้อบังคับการประชุมหรือไม่ และกังวลว่าการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญครั้งนี้จะสามารถหาทางออกให้สถานการณ์ได้หรือไม่ ซึ่งจะมีการหารือในที่ประชุมวิปฝ่ายค้านวันนี้อีกครั้งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อหรือจะมีทางออกต่อสถานการณ์อย่างไร เพราะเป็นญัตติที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์

ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา เชื่อว่าการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญจะเป็นการเริ่มต้นของทางออกโดยใช้กลไกในสภา และจะเป็นแนวทางไปสู่การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรับหลักการในสมัยประชุมสามัญ โดยเชื่อว่าสมาชิกรัฐสภามีวุฒิภาวะเพียงพอในการประคับประคองบ้านเมืองและช่วยคลี่วิกฤตินี้ต่อไปได้

ส่วนนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า อยากให้รัฐสภาเป็นตัวอย่างในการอภิปรายอย่างมีวุฒิภาวะสามารถพูดเรื่องสถาบันได้แต่อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

related