svasdssvasds

เงินเฟ้อ คืออะไร? รู้หรือไม่เงินเรามีค่าลดลงทุกปีเพราะสิ่งนี้

รู้หรือไม่ เงินเราอยู่เฉยๆ ฝากธนาคารไว้ทุกเดือน ทุกปี อยู่ดีๆก็มีค่าลดลงเพราะสิ่งที่เรียกว่า เงินเฟ้อ ถึงไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ไม่อยากรู้จักก็ต้องรู้ เพราะมันเป็นเพื่อนรักเรามานมนาน ทำให้ข้าวของต่างๆมีราคาแพงขึ้น สวนทางกับอำนาจในการซื้อของเรา แล้วมันคือ?

        ทุกๆคนรู้หรือไม่คะว่า เงินเราที่ฝากธนาคารกันอยู่เฉยๆ ที่พ่อแม่สอนเรามาตั้งแต่เด็กๆให้เก็บออม อดออม คำสองคำก็ออมนะลูก แต่พอผ่านไปทุกๆปี กลับมีค่าลดลงได้ เพราะสิ่งที่เรียกว่า เงินเฟ้อ 
 

เงินเฟ้อ คือ อะไร?

      คือ  สินค้ามีราคาแพงขึ้น แต่ค่าเงินในมือเราลดลง


เงินเฟ้อ เกิดจาก 2 ปัจจัย?

1.ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น อาจเกิดจากค่าจ้างของแรงงานสูงขึ้น ราคาวัตถุดิบ รวมไปถึงการเพิ่มอัตรากำไรของผู้ประกอบการ

2.ความต้องการซื้อมากกว่าความสามารถในการผลิต  เมื่อผลิตได้น้อยแต่คนต้องการมากก็มีผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า 

การเงิน


ตัวอย่างของ เงินเฟ้อ ที่ชัดเจน เช่น

  • 20ปีที่แล้ว ปี 2544 

ใช้เงิน20 บาท ซื้อข้าวกะเพรา ได้ 1 จาน

  • ตอนนี้ 2564

ใช้เงิน 20 บาท ซื้อข้าวกะเพรา ไม่ได้แล้ว
เงินเท่าเดิมซื้อของไม่ได้ เพราะราคาแพงขึ้น
แบบนี้เรียกว่า ภาวะเงินเฟ้อ นั่นเองค่ะ

 

ปกติเงินเฟ้อทุกปี จะอยู่ที่ประมาณ 2-3% ต่อปี 
       ทีนี้ถ้าเราฝากเงินในธนาคารไปเรื่อยๆโดยไม่ลงทุนอะไร ดอกเบี้ยเงินฝากที่น้อยมากๆอยู่ตอนนี้ไม่เกิน 2% ไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ เมื่อเวลาผ่านไปเงินเราก็จะมีค่าลดลงๆเรื่อยๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

 

เหตุผลที่ควรเริ่ม ลงทุน นอกจาก เก็บออม
       ไม่ว่าจะเป็นขายของ ซื้อกองทุนหรือเล่นหุ้น ล้วนแต่เป็นการลงทุนทั้งนั้น ซึ่งมีโอกาสได้กำไร แต่ก็มีความเสี่ยงในการขาดทุน อยู่ที่ว่าเสี่ยงมากเสี่ยงน้อย เลือกเอาตามที่ตัวเองรับความเสี่ยงไหว เช่น

ฝากประจำ

สลากออมสิน 

ประกันชีวิตสะสมทรัพย์

กองทุนรวม

หุ้น

ทองคำ และ crypto cerrency

       สุดท้ายนี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ความรู้ทางการเงิน จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทำให้เราสามารถจัดการวางแผน  เงินในชีวิตเราได้ แบบไม่ลำบาก เท่าทันสถานการณ์ บางคนพ่อแม่สอนมาตลอดชีวิตให้เก็บออม ก็ออมมันอย่างเดียว แต่สุดท้ายไม่สามารถเลี้ยงชีพตอนแก่ได้เพียงพอ ถ้าโอ๋แนะนำ คุณควรเริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้  เช่น กองทุนรวม ก็เป็นทางเลือกที่ดี เดินเข้าไปปรึกษาธนาคารได้เลย ด้วยเงินแค่ 500 - 1000/เดือนเท่านั้นเอง อย่าลืมนะโอ๋ย้ำเสมอว่า

    " ลงทุนมากน้อย ไม่สำคัญเท่า ลงทุนเป็นประจำและสม่ำเสมอ...." เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย

related