svasdssvasds

"ไซบูทรามีน" สารต้องห้ามผิดกฎหมาย อันตรายถึงชีวิต!

"ไซบูทรามีน" สารต้องห้ามผิดกฎหมาย อันตรายถึงชีวิต!

พารู้จัก "ไซบูทรามีน" Sibutramine สารใน ยาลดความอ้วน พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลไซบูทรามีน อาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยนะ !

จากกรณี ตำรวจ ปคบ. กล่าวถึงกรณีเคยจับ 2 สามีภรรยา CEO แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชื่อดัง หลังพบสาร "ไซบูทรามีน" หรือสารต้องห้ามใส่ไปในผลิตภัณฑ์ยาลดน้ำหนัก 

วันนี้ทางสปริงนิวส์ จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ "ไซบูทรามีน" (Sibutramine) ซึ่งในปัจจุบันยานี้เป็นยาผิดกฎหมาย มีการห้ามนำเข้าหรือจำหน่ายในประเทศไทย มีการระบุว่า การใช้ ไซบูทรามีน อาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย หากมีโรคประจำตัวและกำลังใช้ยาบางชนิด

และสำหรับ ไซบูทรามีน เป็นยาที่ใช้รักษาโรคอ้วนหรือโรคอื่นที่มีสาเหตุมาจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไป จัดเป็นยาอันตรายที่มีผลข้างเคียงรุนแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หายใจลำบาก เพิ่มเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น

ไซบูทรามีน จัดเป็นยาที่มีฤทธิ์รุนแรง เป็นยาผิดกฎหมายห้ามนำเข้าหรือจำหน่าย แต่ก็มักมีการลักลอบนำไปผสมใน "อาหารเสริม" ที่ช่วยลดน้ำหนักหรือยาลดความอ้วน รวมถึงนำไปโฆษณาจนเกินความเป็นจริงซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว

ความอันตรายของ "ไซบูทรามีน"

ไซบูทรามีน จะเข้าไปยับยั้งการหลั่งของสารเคมีภายในร่างกาย ส่งผลให้ไม่อยากอาหารและอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ดังนี้ 

  • ปวดหัว 

  • เวียนหัว 

  • ปากแห้ง 

  • ท้องผูก 

  • นอนไม่หลับ 

  • คัดจมูก 

  • น้ำมูกไหล 

  • มีไข้ 

  • อยากอาหาร 

  • เวียนศีรษะ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อาการที่กล่าวมาเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการใช้ ไซบูทรามีน เท่านั้น ยาชนิดนี้ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคอื่นๆ

เช่น โรคคลั่งผอม (Anorexia) ภาวะความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคจิต ภาวะอารมณ์ดีกว่าปกติ (Mania) ภาวะซึมเศร้า และเกิดความคิดอยากฆ่าตัวตายหรือพยายามฆ่าตัวตายได้

ดังนั้น หากพบสัญญาณใดสัญญาณหนึ่งในข้างต้นหรืออาการอื่นหลังจากใช้อาหารเสริมที่ช่วยลดน้ำหนัก ควรไปพบแพทย์เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

การใช้ ไซบูทรามีน อาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต หากมีโรคประจำตัวและกำลังใช้ยาบางชนิด โดยเฉพาะโรคและยาต่อไปนี้

  • โรคหัวใจ

  • โรคหลอดเลือดสมอง

  • โรคตับ

  • โรคต้อหิน

  • โรคไต

  • ภาวะซึมเศร้า

  • โรคลมชัก

  • ภาวะเลือดไหลผิดปกติ

  • โรคนิ่วในถุงน้ำดี

  • ภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis)

  • โรคไทรอยด์

  • ภาวะความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรงหรือชนิดที่ไม่สามารถควบคุมได้

  • ผู้ที่กำลังใช้ยาต้านเศร้า ยาแก้แพ้ ยาแก้ปวด ยาแก้หวัด ยารักษาไมเกรน ยาเสพติด และยากระตุ้นความอยากอาหาร

นอกจากนี้แล้ว สำหรับหญิงที่ตั้งครรภ์ หรือ ผู้ที่กำลังให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี อาจมีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากการใช้ยานี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศฯ กำหนดให้ไซบูทรามีนเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2561 เป็นต้นไป

ผู้ใดผลิต นำเข้า หรือส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีไซบูทรามีนเป็นส่วนผสม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 - 20 ปี และปรับตั้งแต่ 5 แสนบาท - 2 ล้านบาท ผู้ใดขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 - 20 ปี และปรับตั้งแต่ 4 แสนบาท - 2 ล้านบาท ผู้ใดครอบครองจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท - 1 แสนบาท

หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมไปถึงผู้ที่บริโภคผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ก็ถือว่าเป็นความผิดด้วย โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แหล่งที่มา https://www.pobpad.com/

related