อันตราย! “หัวใจวายเฉียบพลัน” หากมีอาการเหล่านี้ให้รีบส่งโรงพยาบาลด่วน เพราะอาจเสี่ยง“ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด”ไม่รู้ตัว! แนะวิธีรักษาและลดพฤติกรรมเสี่ยง
หัวใจวายหรือหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เป็นภาวะความผิดปกติของร่างกายที่ไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้เพียงพอ และมักไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะเริ่ม เมื่อเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน หรือ Heart Attack มักเป็นอย่างฉุกเฉิน ไม่รู้ตัวอาจเกิดในคนที่ดูปกติไม่ทราบว่าเป็นโรคหัวใจมาก่อน โดยเฉพาะเมื่อพบอาการผิดปกติ
สาเหตุโรคนี้เกิดจากการมีลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดหัวใจอย่างเฉียบพลัน ซึ่งลิ่มเลือดเหล่านี้เกิดจากการที่ร่างกายมีภาวะไขมันมากเกินไปจนพอกเป็นตะกรัน (plaque) เกาะอยู่ตามผนังของหลอดเลือด เมื่อรวมเข้ากับเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มากัดกินก็ทำให้เกิดเป็นกลุ่มเซลล์ที่ไม่สามารถดูดกลับเข้าไปในร่างกายได้ แต่กลับฝังตัวอยู่ในผนังหลอดเลือดแทน เมื่อเวลาผ่านไป ตะกรันนี้จะแตกตัวหรือปริออก หลอดเลือดจะพยายามซ่อมแซมตัวเอง จนเกิดลิ่มเลือดไปอุดกั้นหลอดเลือด ถ้าเป็นการแตกตัวที่หลอดเลือดแขนงเล็ก ผู้ป่วยจะมีเพียงอาการเจ็บหน้าอก แต่ถ้าลิ่มเลือดนี้อุดตันหลอดเลือดขนาดใหญ่ก็อาจส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นอนน้อย นอนไม่หลับ เสี่ยงหัวใจโต พร้อมคำแนะนำวิธีการนอนที่ดี
นักวิจัยขอเตือน สายติดที่นอน "นอนมากเกินไป" เสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลัน!
อาการของภาวะหัวใจล้มเหลว
-หายใจหอบ หายใจไม่พอ หายใจสั้น
-เจ็บแน่นหน้าออกหายใจผิดจังว่ะ
-เหงื่อออก ตัวเย็น
-คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืด เป็นลม แน่นหน้าอก
-ขาบวมกดแล้วบุ๋มทั้งสองขา
-มีการโป่งพองของเส้นเลืดดำที่คอ
-มีเสียงกอปแกรปที่ชายปอดทั้งสองข้าง
-คลำพบตับโตกดแล้วเจ็บ
-ปวดจุกท้อง บริเวณลิ้นปี่ หรือปวดร้าวขึ้นไปที่กรามหรือไหล่โดยเฉพาะไหล่ซ้าย
หากมีอาการเหล่านี้ให้รีบนั่งพัก และนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพราะอาการเหล่านี้...เป็นส่วนหนึ่งของ “ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด”
การรักษาภาวะหัวใจวายหรือหัวล้มเหลว มีดังนี้
1. การรักษาด้วยยา มีวัตถุประสงค์เพื่อลอัตรากาตาย เพิ่มความสามารถในการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ลดภาระการทำงานของหัวใจ ป้องกันและชะลอการเสื่อมของหัวใจ ลดอาการรุนแรง ป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลวมากขึ้นและทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ยาที่ใช้ในการรักษาภาวะหัวใจล้มเหลวประกอบด้วย กลุ่มยาขับปัสสาวะ กลุ่มยายับยั้งเอ็นไซน์แองจิโอเทนชิน กลุ่มยาปิดกั้นเบตัา กลุ่มยาดิจิทาลิส กลุ่มยาไนเตรท
2. รักษาด้วยการใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเพื่อช่วยในการบีบตัว (Cardiac Resynchronization Therapy: CRT) หรืออุปกรณ์อื่นตามข้อบ่งชี้ เพื่อลดภาระการทำงานของหัวใจและเพิ่มการบีบตัวของหัวใจ
3. การรักษาด้วยการผ่าตัด ได้แก่ การผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ โดยจะทำการผ่าตัดเมื่อพบว่าภาวะหัวใจล้มเหลวเกิดจากหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยการต่อเพิ่มหลอดลือดใหม่กับหลอดเลือดหัวใจ ทำให้มีเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจเพิ่มขึ้น การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ โดยจะทำการผ่าตัดเมื่อหัวใจมีการทำลายจนไม่สามารถกลับคืนมาได้ หรือไม่ตอบสนองต่อกรรักษาหรือการบำบัดอื่นๆ หรือมีข้อบ่งชี้ว่าระดับความรุนแรงของภาวะหัวใจล้มเหลวอยู่ในระยะสุดท้าย
4. การรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรมการดำนินชีวิต เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดภาวะหัวใจลัมเหลวในผู้ที่มีภาวะเสี่ยงและป้องกันการกำเริบของโรค ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับ
ความรู้และคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ดังนี้
ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์