svasdssvasds

ผบ.ทัพเรือภาค 1 เผยพิสูจน์อัตลักษณ์กำลังพลแล้ว 2 นาย เสริมกำลังค้นหาต่อเนื่อง

ผบ.ทัพเรือภาค 1 เผยพิสูจน์อัตลักษณ์กำลังพลแล้ว 2 นาย เสริมกำลังค้นหาต่อเนื่อง

ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ระบุ กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ที่เสียชีวิต 6 นาย พิสูจน์อัตลักษณ์ได้เรียบร้อย 2 นาย ขณะที่ภารกิจค้นหายังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เติมกำลังพล เรือ เฮลิคอปเตอร์ ขยายพื้นที่ค้นหาทั้งทางน้ำและอากาศ

 เมื่อเวลา 13.00 น. พลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติการค้นหากำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่ยังสูญหายอีก 23 นาย พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากได้ทราบข่าวร้ายว่ามีกำลังพลเสียชีวิตจำนวน 6 นาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น  

พลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1

 ล่าสุดสามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ได้เรียบร้อยแล้วจำนวน 2 นาย คือ เรือโทสามารถ แก้วผลึก เป็นกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัย และพันจ่าเอกอำนาจ พิมที สังกัดหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ขณะนี้ได้นำร่างของทั้ง 2 รายเข้าห้องเย็น เพื่อรักษาสภาพที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถานแล้ว ส่วนอีก 4 รายเมื่อพิสูจน์ได้เรียบร้อยแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

 สำหรับแผนปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายในวันนี้ ยังคงยืนยันว่าจะค้นหาให้ครบทั้งหมดเต็มกำลังความสามารถ โดยวันนี้จากการสังเกตสภาพอากาศ ขณะนั่งเฮลิคอปเตอร์บินมาจากสัตหีบ พบว่า อากาศเริ่มดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังมีคลื่นหัวแตกอยู่ ส่วนการปฏิบัติค้นหาทางทะเลของกองทัพเรือที่เป็นหน่วยหลัก ได้เพิ่มพื้นที่มากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุม โดยจะมีเรือใหญ่ คือ เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงภูมิพล เรือหลวงนเรศวร และมีเรือหลวงนราธิวาส เข้ามาเพิ่มอีก 1 ลำ ซึ่งได้ขอกำลังพลมาจากกองทัพเรือภาคที่ 2 อยู่ระหว่างเดินทางเข้าพื้นที่และจะเริ่มปฏิบัติภารกิจทันทีในช่วงบ่ายวันนี้

 รวมถึงเรือหลวงตากสินด้วยที่อยู่ระหว่างเดินทางมาด้วยเนื่องจากว่าเรือที่ลาดตระเวณอยู่ จะสลับสับเปลี่ยนส่งบำรุงและเติมน้ำมัน เติมเสบียงอาหาร แต่จะไม่ให้พื้นที่ไหนหลุดรอดไปได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ทร. ส่ง "เรือหลวงตากสิน" เสริมทัพ ปูนบำเหน็จคนตาย 5 ชั้นยศ เยียวยา 1-2 ล้าน 

• ส่งยาน Sea Fox สำรวจใต้น้ำ พร้อมวางแผนกู้เรือหลวงสุโขทัย

• เรือหลวงสุโขทัย สรุปวานนี้ค้นพบ 7 นาย รอดชีวิต 1 นาย เสียชีวิต 6 นาย สูญหาย 23 นาย

 ขณะเดียวกันวันนี้ถือเป็นวันที่ 3 ในการค้นหาแล้ว ร่างของผู้ประสบภัยทั้งหมด น่าจะเข้าใกล้ฝั่ง เรายังได้ใช้กำลังศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. ในพื้นที่ของระยองและประจวบคีรีขันธ์ ขณะนี้ทั้ง 2 ศรชล. จังหวัด โดยมีนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้อำนวยการ ศรชล. ได้จัดสรรพกำลัง ทั้งตัวอำเภอท้องถิ่นทั้งหมดที่จะลงไปช่วยกัน รวมถึงหนึ่งใน ศรชล. คือ ตำรวจน้ำ ก็จะมีเรือตรวจการณ์ 2 ลำ เรือลิบท้องแข็ง 2 ลำ ส่วนของกรมประมง ก็มีเรือตรวจประมงอีก 2 ลำ เรือลิบท้องแข็งอีก 1 ลำ และของกรมทรัพยากรฯอีก 1 ลำ พร้อมเจ็ทสกี ขณะนี้ปฎิบัติภารกิจอยู่ในทะเลแล้ว 

พลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1

 จากการที่ใช้การคำนวณแผนที่ตามโปรแกรมของกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ หรือ “ซาแมพ” นั้น โอกาสในเรื่องของสภาพอากาศปิด ทำให้ผู้ประสบภัย อาจจะเล็ดลอดไปอยู่ในพื้นที่โซน 9 หรือเข้าสู่จังหวัดชุมพร โดยทางอากาศก็จะมีอากาศยานของกองทัพอากาศทำงานร่วมกับกองทัพเรือที่เรามีเครื่องบินดอร์เนีย และเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำอยู่

 ส่วนกองบินตำรวจก็ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์มาเสริมทัพอีก 2 ลำ เพื่อสแตนด์บายขึ้นไปสลับสับเปลี่ยนกันปฎิบัติภารกิจค้นหา โดยจากตลอด 3 วันที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าในช่วงเวลากลางคืน จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการค้นหามากเท่าไหร่นัก แม้กระทั่งกลางวันเองก็ยังหายากด้วยแรงลมที่แรง และอากาศไม่เป็นใจ แต่เวลาทองตอนนี้คือช่วงเวลาที่มีแสงในการพิสูจน์ทราบและเข้าช่วยเหลือ

 ขณะที่พลเรือโทพิชัย ยังระบุอีกว่า ยังมีความหวังและภาวนาขอให้เจอผู้ประสบภัยและอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ส่วนครอบครัวและญาติของผู้สูญหายที่จะเข้ามาติดต่อ ขณะนี้ได้จัดสถานที่ไว้ให้ทั้งหมดแล้ว โดยที่ท่าเรือประจวบจะเป็นศูนย์ปฎิบัติการกองทัพเรือส่วนหน้า และหน่วยต้นสังกัดของกำลังพล คือ กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินและหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานรักษาฝั่ง ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเริ่มเซตภายในวันนี้ ยืนยันสามารถติดต่อมาที่นี่ได้โดยตรง และเบื้องต้นคาดว่าทุกหน่วยได้ติดต่อไปทางญาติแล้ว

 ส่วนขั้นตอนของร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้น ทางเราจะพยายามรักษาสภาพร่างกายให้สมบูรณ์ที่สุด และอยู่ระหว่างรอศูนย์บัญชาการกองทัพเรือ ไปพูดคุยกับญาติ แต่ทางนายกรัฐมนตรี ยืนยันแล้วว่าจะดูแลทุกนายให้ดีที่สุด โดยขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งคนที่สามารถตอบประเด็นนี้ได้ดีที่สุด คือ “ผู้บังคับการเรือ” และโชคดีมากที่รอดชีวิตโดยตอนนี้ควรโฟกัสไปที่การช่วยเหลือผู้สูญหายเป็นหลัก

 ส่วนประเด็นต่างๆ ที่นอกเหนือจากการช่วยเหลือนั้น ทุกอย่างยืนยันว่า มีขั้นตอนการปฎิบัติของเรือเพราะเรือลำหนึ่งที่จะออกราชการนั้น ต้องมีขั้นตอนว่าจะทำอะไรบ้าง โดยมีผู้บีงคับการเรือที่จะต้องรู้ทั้งหมด จึงอยากให้รอความชัดเจนถึงการประสบอุบัติเหตุครั้งนี้

 ขณะที่ประเด็นกำลังพลที่ขึ้นเรือหลวงสุโขทัยไปนั้น ว่ายน้ำเป็นหรือไม่ ยืนยันว่า ส่วนใหญ่จะว่ายน้ำเป็นทั้งหมด ยกเว้นพลทหาร แต่ชื่อว่าการฝึกนั้นก็ต้องมีการฝึกช่วยเหลือตัวเองกลางทะเลด้วย ก่อนจะส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ โดยจะเร่งเดินหน้าค้นหาไปจนกว่าจะพบร่างสุดท้าย เพราะทุกคนคือครอบครัวทหารเรือ

 ทั้งนี้มีรายงานว่า ก่อนที่เรือหลวงสุโขทัย จะออกเรือก่อนเกิดเหตุอับปาง พบว่า มีใบส่งซ่อมตัวเครื่อง แต่กลับได้รับอนุญาตให้นำเรือออกทะเลได้

 โดยพล.ร.ท.พิชัย ได้ชี้แจงในประเด็นนี้ว่า การแจ้งซ่อมเรือนั้น จะมีหน่วยตรวจสอบรายละเอียดการซ่อมการบำรุงรักษา ซึ่งการซ่อมนั้นจะเป็นรายละเอียดเล็กน้อย เช่น ตู้เย็นเสีย อุปกรณ์อื่นๆในเรือเสีย ไม่ใช่เครื่องยนต์ และอุปกรณ์หลักในการเดินเรือ และกรณีนี้ ยังไม่ทราบว่า มีใบแจ้งซ่อม แต่เป็นคนอนุญาตให้เดินเรือได้ เพราะสภาพเครื่องยนต์ พร้อมในการออกทะเล

 เรือทุกลำที่ออกทะเลได้ต้องผ่านการอนุญาตจากตนเอง รวมถึงเรือหลวงสุโขทัยในวันเกิดเหตุ ซึ่งได้ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ไม่มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ระบบการรักษาความปลอดภัย ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอีกครั้ง

 ตอนนี้ต้องมุ่งค้นหาผู้สูญหายทั้ง 23 นาย ให้พบโดยเร็วที่สุด และเมื่อเช้าที่ผ่านมาตนเองและคณะได้ทำพิธีบวงสรวงขอพรสิ่งศักดิ์ ให้ช่วยดลบันดาลให้เจอทั้ง 23 คน โดยเร็ว ซึ่งในวันนี้สภาพอากาศท้องฟ้าเปิด แต่ยังมีคลื่นเป็นบางช่วง ก็มีความหวังที่จะได้รับข่าวดี 

 เมื่อถามถึงการที่ลูกเรือลอยคออยู่ในทะเลเกิน 48 ชั่วโมง จะส่งผลต่อความปลอดภัยหรือไม่  พลเรือโทพิชัย ชี้แจงว่า ส่วนตัวคงไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากร่างการและการฝึกฝนของ แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ยกกรณีที่สึนามิ เป็นเด็กเกาะขอนไม้ได้ถึง 7 วัน และกินน้ำทะเลประทังชีวิตยังรอดชีวิตได้ 

 โดยหลังจากที่ พล.ร.ท.พิชัย ได้ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ก็ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของกำลังพลที่ยังสูญหาย และได้ชี้แจงการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เริ่มจากครอบครัวของพลทหารชัยชนะ ช่างวาด ที่เดินทางมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เดินทางมา 2 วันแล้ว

 ซึ่งพร้อมให้กำลังใจกับครอบครัว ว่า ตอนนี้ทุกคนก็จิตตก โดยเฉพาะครอบครัว ซึ่งส่วนสูงสุดคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านได้มีพระมหากรุณาธิคุณมา ท่านทรงห่วงใยมาก และรับทุกคนไว้ในการดูแลในพระองค์ นายกรัฐมนตรีเองก็สั่งการให้ช่วยทุกคนเท่าที่จะทำได้ใช้กำลังเท่าไรก็ใช้ไปได้เลยและให้คอยดูแลครอบครัวด้วย ถ้าหากกรณีพบการเสียชีวิตก็ให้ดูแลเต็มที่ที่สุดแม้จะทดแทนกันไม่ได้ก็ตาม

 ด้านญาติของพลทหารชัยชนะ ก็พูดคุยว่า ก็ภาวนาขอให้หลานกลับมา ทำให้ พล.ร.ท.พิชัย เสียงสะอื้นและน้ำตาไหล พร้อมพูดว่า “ผมก็ภาวนา วันนี้ก็ทำพิธีบวงสรวงอะไรไปเยอะเลย และก็รอจะด้วยกัน” และญาติของครอบครัวพลทหารชัยชนะ ก็บอกว่า “ก็ขอให้เจอ”

related