svasdssvasds

"WHO" เผยโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ BQ.1.x ครองการระบาดแทนที่ BA.5 แล้ว

"WHO" เผยโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ BQ.1.x ครองการระบาดแทนที่ BA.5 แล้ว

"WHO" ชี้โควิด19 สายพันธุ์ใหม่ BQ.1.x ครองการระบาดแทนที่ BA.5 เผยตรวจพบสูงสุด 42.5% ส่วน BA.2.75.x นั้นพบเพียง 9.8%

 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน) โดยข้อความระบุว่า

อัพเดตจาก WHO

องค์การอนามัยโลกเผยแพร่รายงาน WHO Weekly Epidemiological Update รอบวันที่ 21 ธันวาคม 2565

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา Omicron ครองการระบาดทั่วโลก 99.7%

โดยภาพรวมของทั่วโลก สายพันธุ์ย่อยของ Omicron ที่กำลังถูกติดตามอย่างใกล้ชิดนั้นมี 6 สายพันธุ์ 

ซึ่งรวมแล้วมีสัดส่วนครองการระบาดถึง 72.9% โดยเข้ามาแทนที่ BA.5 ที่เคยครองอำนาจอยู่เดิม

สัปดาห์ล่าสุด พบว่า BQ.1.x ตรวจพบสูงสุด 42.5%

ตามมาด้วย BA.5 ที่มีการกลายพันธุ์เพิ่มตั้งแต่ 1-5 ตำแหน่ง มีสัดส่วน 13.4%

ส่วน BA.2.75.x นั้นพบราว 9.8%, XBB.x 6.1%, BA.4.6 1%, และ BA.2.30.2 พบ 0.1%

Dr.Maria Van Kerkhove ซึ่งเป็น WHO COVID-19 technical lead ได้ชี้ให้เห็นว่าระบบรายงานในปัจจุบันประสบปัญหาจากการที่หลายประเทศรายงานต่ำกว่าสถานการณ์จริง ทำให้ยากต่อการประเมินสถานการณ์ระบาดของโลก นอกจากนี้จำนวนการตรวจสายพันธุ์ก็มีแนวโน้มลดลง จะเป็นอุปสรรคต่อการติดตามเฝ้าระวัง และได้เรียกร้องให้แต่ละประเทศวางแผนการสุ่มตรวจสายพันธุ์ เฝ้าระวังสถานการณ์ให้รัดกุมขึ้น

ทาง WHO ยังเตือนให้ประชาชนทั่วโลกระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงปลายปีที่มีกิจกรรมพบปะกันมาก เทศกาลรื่นเริง จะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดมากได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• จีนผวา! คาดอาจพบอัตราติดเชื้อโควิด19 วันเดียวเกือบ 37 ล้านคน

• "หมอยง" ชี้บทเรียน 3 ปี โควิด-19 ไม่มีวัคซีนเทพ ติดเชื้อแล้วสามารถเป็นซ้ำได้

• หมอธีระ เผย WHO ส่งสัญญาณเตือนเฝ้าระวัง โควิด19 ไข้หวัดใหญ่ RSV ระบาดหนัก

สถานการณ์ในอเมริกา

ล่าสุด BQ.1.x ครองการระบาดกว่า 80% ในขณะที่ XBB.x นั้นมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นราว 20%

ทีมงานจากนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาได้เผยแพร่ผลการศึกษาในวารสารการแพทย์โรคติดเชื้อ Clinical Infectious Diseases เมื่อ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา

สาระสำคัญคือ จากการสำรวจประชากรในช่วงมิถุนายนจนถึงกรกฎาคม 2565 ประเมินว่าขณะนี้มีคนที่ประสบปัญหาติดเชื้อแล้วเกิดภาวะ Long COVID อยู่ราว 7.3% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ทั้งหมดในประเทศ หรือราว 18 ล้านคน

โดยหนึ่งในสี่ (25.3%) ของกลุ่มคนที่ประสบปัญหา Long COVID นั้น รายงานว่าส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ทั้งนี้ราวหนึ่งในสามแจ้งว่าติดเชื้อโควิด-19 มานานกว่า 12 เดือน

สำหรับไทยเรานั้น

การติดเชื้อแพร่เชื้อมีจำนวนมากในแต่ละวัน จำเป็นต้องป้องกันตัวให้ดี

ระมัดระวังสถานที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี

กิจการห้างร้านต่างๆ ควรมีความรับผิดชอบต่อสังคม ดูแลบริการลูกค้าโดยคำนึงถึงความปลอดภัย

ควรไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ลดเสี่ยงป่วยรุนแรง ตาย และ Long COVID

สำคัญที่สุดคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก

โควิดติดไม่ใช่แค่คุณ

โควิดติด ไม่จบแค่ชิลๆ แล้วหาย แต่ป่วยได้ ตายได้ และเสี่ยงต่อภาวะผิดปกติระยะยาวได้

ขอให้มีความสุข ปลอดภัยกันทุกคน

ที่มา : Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)

 

related