แหล่งข่าวจากก.ล.ต. เผยว่า ขณะนี้มีความขัดแย้งกันหนักในคณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการพิจารณาวาระการดำรงตำแหน่งของ เลขาธิการ ก.ล.ต. คนปัจจุบัน กระทบคดีใหญ่ More-Zipmex-BitKub ยังไม่สิ้นสุด
กรณีความขัดแย้งกันหนักในคณะกรรมการ ก.ล.ต. เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ได้พิจารณาวาระการดำรงตำแหน่งของ น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. คนปัจจุบัน ซึ่งจะหมดวาระลงในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ได้ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในประเด็นเรื่องประสิทธิภาพในการทำหน้าที่และความเหมาะสม
โดยคณะกรรมการ ก.ล.ต.รายหนึ่งชี้แจงว่า การประชุมวันนั้น มีการถกเถียงกันอย่างหนัก ตัวเองเป็นผู้หนึ่งที่สนับสนุนและโหวตให้น.ส.รื่นวดี เลขาธิการ ก.ล.ต.ทำงานต่อไปอีกวาระหนึ่ง แม้ว่าจะมีอายุการทำงานได้แค่ 1-2 ปี เนื่องจากมีการทำงานที่เข้มข้น ตรงไปตรงมา และสร้างบรรทัดฐานในตลาดทุนได้อย่างดี
แม้ว่าระหว่างทางจะมีปัญหาหลายอย่าง และจำเป็นต้องขับเคลื่อนในเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล และการปรับเปลี่ยนองค์กรของ ก.ล.ต.ให้มีอำนาจในนการสอบสวนคดีเช่นเดียวกับอัยการ และต้องเดินหน้าในส่วนของคดีที่เกี่ยวพันกับคริปโตเคอเรนซี่ใหญ่ เช่น บิทคัพหรือซิปแม็ก ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนจำนวนมาก
หรือคดีใหญ่ที่เกี่ยวพันกับกรณีหุ้น มอร์รีเทิร์น และโบรกเกอร์ รวมถึงมีความเด็ดขาดในการสั่งปิดกิจการบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งแม้จะเกี่ยวพันกับคณะกรรมการ ก.ล.ต.บางคนก็ตาม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ควรสนับสนุนให้ทำหน้าที่ต่อ
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
แต่มีกรรมการหลายคนที่ไม่เห็นด้วยที่จะเปิดโอกาสให้มีการต่ออายุและควรเปิดให้สรรหาใหม่ ถ้าเลขาธิการ ก.ล.ต.คนปัจจุบัน จะสมัครเพื่อทำงานต่อไป ก็สามารถทำได้ตามกฎหมาย
แต่เพราะเห็นว่า เลขาธิการ ก.ล.ต.เป็นคนแข็ง ยอมหักไม่ยอมงอ จนเกิดปัญหาการเมืองภายในองค์กร เกิดความขัดแย้ง มีการแบ่งฝักฝ่าย จนบอร์ดแตกออกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายที่สนับสนุน ฝ่ายที่คัดค้านการต่ออายุของเลขาธิการ ก.ล.ต.และฝ่ายที่เสนอว่าควรพิจารณาประเด้นนี้ให้ถี่ถ้วน เพราะเกี่ยวพันกับจุดยืนการมีส่วนได้ส่วนเสีย และการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ
อย่างไรก็ตาม การแจ้งมติของการประชุมที่ไม่เป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 6 ต่อ 4 ในการไม่ต่ออายุเลขาธิการก.ล.ต.คนปัจจุบัน นำมาในเรื่องประเด็นการถกเถียงกันอย่างรุนแรง ถึงขั้นว่าจะมีการฟ้องร้องคดีกัน ระหว่างเลขาธิการ ก.ล.ต.กับ คณะกรรมการ ก.ล.ต.ในคราวการประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่มีการขัดแย้งอย่างรุนแรงนั้น มาจากประเด็นใหญ่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น
“คดีของบล.เอเชีย เวลท์ ที่ก.ล.ต.แจ้งความผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และได้ส่งเรื่องให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ดำเนินคดีอาญา และเสนอให้ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลังพิจารณา เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจของบล.เอเชีย เวลท์ น่าจะเป็นประเด็นใหญ่ที่สุด”
2. ปัญหาที่ต่อเนื่องและคาราคาซังมาจากคำสั่งของ ก.ล.ต.ในกรณีของกลุ่มบิทคับ (Bitkub) ที่มีปัญหาเรื่องระบบปฏิบัติการณ์ รูปแบบการให้บริการ การสร้างปริมาณเทียม ราคาเหรียญ จนนำมาซึ่งคำสั่งเปรียบเทียบปรับ เรื่องคุณสมบัติเหรียญ KUB ที่นำเข้ามาซื้อขายในกระดานสินทรัพย์ดิจิทัล
3. ปัญหาที่ต่อเนื่องมากจากบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด ที่ประกาศระงับธุรกรรมการถอน คริปโตเคอร์เรนซีและเงินบาท จนก่อให้เกิดความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาทเศษและปัจจุบันยังจ่ายเงินคืนให้นักลงทุนไม่ได้
“ทั้ง 3 ประเด็นที่ทาง ก.ล.ต.ทำมานั้น นำมาซึ่งความขัดแย้งกันอย่างหนัก จนการประชุมบางครามีกรรมการ ต้องเสนอให้กรรมการบางท่าน ที่เกี่ยวพันต้องออกจากห้องประชุมก็มี และทั้ง 3 เรื่องมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวพันจนนำมาซึ่งปัญหาการต่ออายุของ เลขาธิการ ก.ล.ต.ซึ่งเรื่องนี้กระทบกับภาพพจน์ของหน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดทุนอย่างมาก”