"โรคเอ็กซ์" โรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ที่ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังเฝ้าติดตามการระบาดอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันระบาดในประเทศอัฟกานิสถาน คร่าชีวิตแล้ว 17 ราย
"โรคเอ็กซ์" โรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ที่ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังเฝ้าติดตามการระบาดอย่างใกล้ชิดซึ่งระบาดทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอัฟกานิสถาน และพบรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 17 ราย
ด้านศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุว่า
"โรคเอ็กซ์" โรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ที่ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังเฝ้าติดตามการระบาดอย่างใกล้ชิด
WHO ระบุว่าขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโดยไม่ทราบสาเหตุว่าเป็นจุลชีพหรือไวรัสประเภทใดจำนวน 97 ราย ในหมู่บ้านปามีร์ คาลัน เสียชีวิตแล้ว 17 ราย
WHO ได้ประสานให้ความช่วยเหลือครอบครัวที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กในหมู่บ้านดังกล่าวที่เข้าถึงลำบากเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย หิมะตกหนักทำให้ "ทีมเผชิญเหตุ" ยังไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ แต่ยาและเวชภัณฑ์ได้ถูกส่งไปยังพื้นที่ระบาดล่วงหน้าแล้ว
WHO ได้เตรียมแผนรับมือโรคเอ็กซ์ (disease X) เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 “โรคเอ็กซ์" หมายถึงโรคติดเชื้อจากบรรดาจุลชีพหรือไวรัสก่อโรคที่เราไม่รู้จัก หรือยังรู้จักไม่เพียงพอซึ่งมีศักยภาพในการก่อให้เกิดโรคระบาดร้ายแรงระหว่างประเทศได้ โดย WHO เร่งอัปเดตรายชื่อเชื้อโรคที่สำคัญที่สามารถทำให้เกิดการระบาดและโรคระบาดทั่วโลก และประเทศต่างๆควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดย WHO ได้รวม“โรคเอ็กซ์" ไว้ในรายการด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• เชื้อไมโครพลาสมา คืออะไร? โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ อาการหนักไหม? ฟังหมอมนูญ
• การป้องกันฝุ่น pm2.5 วิธีดูแลตนเองให้ปลอดโรคระบบทางเดินหายใจ
• โซเชียลแห่อาลัย "หมอนะ" เจ้าของเพจใกล้หมอฟัน เสียชีวิตจากระบบทางเดินหายใจ
รายการนี้เผยแพร่ครั้งแรกในปี 2560 และจัดลำดับความสำคัญครั้งสุดท้ายในปี 2561 รายชื่อปัจจุบันประกอบด้วย
โควิด-19, ไข้เลือดออกไครเมียคอง, โรคไวรัสอีโบลาและโรคไวรัสมาร์บวร์ก, ไข้ลาสซา, โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) และ โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS), โรคนิปาห์และโรคเฮนิปาไวรัส, ไข้ริฟต์วัลเลย์, ซิกา และ “โรค X”
WHO กำลังเร่งปรับปรุงรายชื่อเพื่อเป็นแนวทางให้ทั่วโลกทั้งภาครัฐ เอกชน และ NGO ร่วมกันลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ล่วงหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านวัคซีน การทดสอบทางห้องปฏิบัติการ และการรักษา เพื่อจะผลิตภัณฑ์ใช้ได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดการระบาด
กระบวนการอัปเดตเริ่มต้นเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2565 โดยอาศัยนักวิทยาศาสตร์กว่า 300 คนทั่วโลกมาร่วมกันวิเคราะห์หลักฐานเกี่ยวกับตระกูลไวรัสและแบคทีเรียมากกว่า 24 ตระกูล มุ่งเน้นไปที่สายพันธุ์ที่ยังไม่มียารักษา ยังไม่มีวัคซีนในการป้องกัน เป็นอันดับแรก
รายการเชื้อโรคที่สำคัญนี้ได้กลายเป็นจุดอ้างอิงสำหรับนักวิจัยทั่วโลกว่าควรมุ่งเน้นสรรพกำลังเพื่อจัดการกับภัยคุกคามต่อประชาชนในระดับพื้นที่
ปัจจุบันมีไวรัสไม่น้อยกว่า 320,000 ชนิดที่แพร่ติดต่ออยู่ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่ไวรัสที่พบติดต่อและก่อโรคในมนุษย์มีเพียง “219 ชนิด” หรือเป็นเพียง “ร้อยละ 0.06” อันหมายถึงยังมีไวรัสอีกมากจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่พร้อมจะแพร่ติดต่อข้ามมาสู่คนหากมีโอกาสเหมาะ
นายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง ของสิงคโปร์ได้เตรียมพร้อมรับมือ "โรคเอ็กซ์" เช่นกัน
ในส่วนของศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดีได้เตรียมพร้อมสนับสนุนภาครัฐถอดรหัสพันธุ์จาก ทั้งดีเอ็นเอ และ อาร์เอ็นเอ ที่สกัดได้จากสิ่งส่งตรวจประเภทต่างๆ จากผู้ติดเชื้อที่คาดว่าเป็น“โรคเอ็กซ์" รวมทั้งจากสิ่งแวดล้อม เพื่อวิเคราะห์หาว่าเป็นจุลชีพหรือไวรัสสายพันธุ์ใดจากสิ่งส่งตรวจให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์ เพื่อตอบโจทย์ของ “โรคเอ็กซ์"
ที่มา : Center for Medical Genomics